สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันพฤหัสฯที่ 10 เม.ย. 2025: ทําลายสถิติ!! ปริมาณซื้อขายสูงสุดในประวัติศาสตร์!!

เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ทำสถิติการดีดกลับมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยเริ่มต้นวันด้วยความกังวลเรื่องวิกฤตการเงิน แต่จบวันด้วยการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศชะลอมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าส่วนใหญ่ออกไปอีก 90 วัน

โดย Nasdaq พุ่งขึ้นถึง +12.16% ซึ่งเป็นการขึ้นแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2001 ส่วน S&P 500 ก็ขึ้นไปถึง +9.52% ซึ่งเป็นวันที่ทำผลงานได้ดีที่สุดตั้งแต่ปี 2008 ส่วน Dow Jones ก็ขึ้นไปกว่า +7.87% หรือ 2,963 จุด ถือว่าเป็นการฟื้นตัวแบบทะลุทะลวงจริงๆ โดยมีปริมาณการซื้อขายสูงถึงประมาณ 3 หมื่นล้านหุ้น ซึ่งเป็นปริมาณการซื้อขายรายวันที่สูงที่สุดที่เคยบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของ Wall Street

เรื่องมันเริ่มจากตอนเช้าที่ตลาดเริ่มตกใจกับมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่มีผลแล้ว เห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีที่พุ่งขึ้นเหนือ 5% ส่วน USD ก็อ่อนค่า ด้าน Futures ของหุ้นก็ตก ซึ่งสัญญาณพวกนี้ทำให้นักวิเคราะห์กังวลว่านักลงทุนต่างชาติอาจจะเทขายสินทรัพย์อเมริกันและนำไปสู่วิกฤต

แต่แล้ว.. .ทรัมป์ก็ออกมาโพสต์ใน Truth Social ว่า “แม้จะยังคงขึ้นภาษีกับจีน แต่จะคงภาษีกับกว่า 75 ประเทศที่ 10% เป็นเวลา 90 วันก่อน และอาจจะพิจารณายกเว้นภาษีให้บางบริษัทเป็นรายๆไปตามที่เห็นสมควร” ซึ่งการประกาศนี้แสดงถึงความยืดหยุ่นในนโยบายที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกโล่งใจและกลับมาซื้อหุ้นอย่างคึกคัก

เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนทิศทางนโยบายครั้งสำคัญที่ทำให้ดัชนีความผันผวน VIX ลดลงจาก 57.96 มาอยู่ที่ประมาณ 30 และทำให้ Goldman Sachs ปรับลดความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะถดถอยลงเหลือแค่ 45%

การขึ้นลงแบบรุนแรงในตลาดหุ้นอเมริกาครั้งนี้แสดงถึงความสำคัญว่า นโยบายการค้าระหว่างประเทศมีผลกระทบต่อตลาดอย่างมหาศาล ความยืดหยุ่นของทรัมป์ในครั้งนี้อาจเป็นเพียงการเลื่อนแรงกดดันออกไป ซึ่งความผันผวนอาจเกิดขึ้นอีกได้ในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะหากมีการกลับมาใช้มาตรการภาษีอย่างเต็มรูปแบบหลังจาก 90 วัน!