- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ 10 ต.ค. 2025: "ศุกร์นรก" ดิ่งยกแผง! สหรัฐฯ-จีนเปิดศึกภาษีรอบใหม่!! ตลาดชะล่าใจเกินไป??
สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ 10 ต.ค. 2025: "ศุกร์นรก" ดิ่งยกแผง! สหรัฐฯ-จีนเปิดศึกภาษีรอบใหม่!! ตลาดชะล่าใจเกินไป??

ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนักในวันศุกร์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขู่จะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกครั้ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากจีนประกาศเตรียมจำกัดการส่งออกแร่หายากให้กับสหรัฐฯ ทำให้ตลาดที่ตอนแรกยังนิ่งๆ กลับร่วงอย่างรวดเร็ว โดย Dow Jones ร่วงลง -1.9% ส่วน S&P 500 ลดลง -2.71% และ Nasdaq ร่วงหนักที่สุด -3.56% ทันทีที่มีข่าวนี้ เศรษฐกิจในฝั่งพันธบัตรก็เริ่มแสดงสถานะรับความเสี่ยง โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 2 ปี ลดลงเหลือ 3.52% และ 10 ปี เหลือ 4.05% ขณะที่ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงแรง
บรรยากาศในตลาดเต็มไปด้วยความกังวล เพราะก่อนหน้านี้ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบหลังจากสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าจะลดความขัดแย้งทางการค้ากับจีน แต่พอข่าวภาษีรอบใหม่นี้ออกมา ทุกอย่างกลับตาลปัตรทันที นักวิเคราะห์จาก Citi มองว่าตลาดอาจเคยชะล่าใจคิดว่าประเด็นภาษีรุนแรงที่สุดคงผ่านไปแล้ว แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่ายังไม่จบ และย้ำว่าก่อนหน้านี้ราคาสินทรัพย์ขึ้นมาสูงมากจนรับข่าวดีไปพอสมควร การเปลี่ยนแปลงแบบนี้จึงเป็นแรงสะเทือนครั้งใหญ่
ค่าเงินดอลลาร์ก็อ่อนตัวลง ในขณะที่ VIX หรือดัชนีวัดความผันผวนของตลาด เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 20 เป็นครั้งแรกตั้งแต่สิงหาคม โดยค่า 21 ยังคงแปลว่าความผันผวนยังปกติ แต่ก็สะท้อนความระมัดระวังสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ฤดูประกาศงบจะเริ่มต้น และรัฐบาลยังเผชิญภาวะชัตดาวน์
ด้าน Jefferies แนะนำให้นักลงทุนเน้นกลุ่มหุ้น defensive ที่ความเสี่ยงต่ำ เช่นธุรกิจที่ไม่ต้องเก็บสินค้าในสต็อกเยอะ หรือลงทุนในบริษัทที่ไม่ได้พึ่งการผลิตจากจีน เพราะจะปลอดภัยกว่าในช่วงความไม่แน่นอนเช่นนี้
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาตลาดไปได้ดี เพราะดูเหมือนนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนคลายขึ้นกับจีน แต่เมื่อวานนี้บรรยากาศ “มองในแง่ดี” นี้เปลี่ยนไปทันที และหากประเด็นภาษีหวนกลับมาเป็นปัญหาอีกครั้ง นักลงทุนคงต้องทบทวนภาพรวมปีนี้ใหม่ทั้งหมดว่ายังสดใสได้เหมือนเดิมหรือไม่
เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณว่าความเสี่ยงจากสงครามการค้ายังไม่จบ และภาพรวมตลาดที่เคยสดใส อาจต้องถูกปรับใหม่อีกครั้ง ทั้งในแง่ความคาดหวังและมูลค่าหุ้น แนะนำว่าช่วงนี้ควรเน้นความระมัดระวังและหันไปหาหุ้นที่ปลอดภัยในยามวิกฤติ