สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันจันทร์ที่ 10 พ.ย. 2025: ตลาดเข้าโหมด "Risk-On"!! Nasdaq พุ่งแรงสุดรอบ 5 เดือน!! Bond Yield ดีดแรง!!

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Nasdaq โดดเด่นสุดในรอบหลายเดือน เพราะได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดหวังว่าการปิดหน่วยงานรัฐฯของสหรัฐฯ จะยุติลงในไม่ช้า หลังจากวุฒิสมาชิกเดโมแครต 8 คนจับมือกับรีพับลิกัน โหวตผ่านมาตรการงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนน 60 ต่อ 40 หากวุฒิสภาลงมติผ่านอีกครั้ง ก็จะส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ซึ่งสมาชิกสภาจะกลับจากการหยุดงานในวันพุธนี้

โดย Nasdaq ปรับขึ้นถึง +2.27% ถือเป็นวันที่ดีที่สุดตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ส่วน S&P 500 บวก +1.54% และ Dow Jones เพิ่มขึ้น +0.81% แรงซื้อกระจุกตัวในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ก่อนจะขยายไปยังหุ้นกลุ่มอื่นในช่วงบ่าย บรรดานักลงทุนต่างโล่งใจเพราะมองว่าความไม่แน่นอนจาก Government Shutdown ที่ยืดเยื้อมานาน อาจหมดไปในเร็ววัน

นักวิเคราะห์ย้ำว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหมือนสัญญาณบวกต่อตลาดทุน เพราะหากปัญหาการปิดหน่วยงานรัฐฯ ยืดเยื้อต่อไปจะสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจ สถานการณ์ก่อนหน้านี้ยังทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจของรัฐ เช่น ตัวเลขเงินเฟ้อ ไม่สามารถเผยแพร่ได้ตามกำหนด และหากปิดหน่วยงานรัฐฯ นานเกินไปจะมีผลกระทบต่อการจ้างงาน การบริโภค และความมั่นใจกำลังซื้อของประชาชน

นอกจากตลาดหุ้นที่ปรับขึ้นแรงแล้ว ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยนักลงทุนหันมาขายพันธบัตร กดให้ราคาปรับตัวลง และทำให้อัตราผลตอบแทน (Bond Yield) อายุ 2 ปี ขยับขึ้นเป็น 3.59% ส่วนพันธบัตร 10 ปี เพิ่มเป็น 4.11% ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อทิศทางการลงทุนที่หันกลับไปหาสินทรัพย์เสี่ยง หลังมีความหวังว่าปัญหาการเมืองจะคลี่คลาย

การที่ตลาดหุ้นพุ่งแรงและ bond yield ขยับขึ้นหลังมีข่าวคืบหน้าเรื่องการยุติ shutdown สะท้อนว่าตลาดต้องการความชัดเจนและเชื่อมั่นต่อทิศทางนโยบายรัฐฯ เมื่อความเสี่ยงทางการเมืองลดลง นักลงทุนก็กล้ากลับมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ประเด็นสำคัญคือ ความมั่นคงทางการเมืองและข้อมูลเศรษฐกิจที่โปร่งใส ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนทิศทางตลาดการลงทุน