สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันพุธที่ 11 มิ.ย. 2025: จับตา CPI เดิมพันครั้งใหญ่! ลุ้น S&P 500 ยืนเหนือ 6,000 จุด!!

สัปดาห์นี้เรียกได้ว่าเป็น “Inflation Week” ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะมีทั้งตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะประกาศหลายชุด และยังมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯรอบใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตลาดหุ้นที่กำลังพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างดัชนี MSCI World Index ก็ทำสถิติใหม่ ส่วน S&P 500 ก็ทะลุ 6,000 จุดไปแล้ว และปิดบวก +0.55% ด้าน Dow Jones เพิ่มขึ้น +0.25% ขณะที่ Nasdaq ก็ปรับตัวขึ้น +0.63% เช่นกัน นักลงทุนทั่วโลกเลยกำลังลุ้นกันว่ารอบนี้จะไปต่อหรือจะมีอะไรสะดุด

จุดเริ่มต้นของสัปดาห์นี้ก็คือ ผลสำรวจความคาดหวังเงินเฟ้อจาก Fed New York ที่ออกมาว่าคนอเมริกันคาดว่าเงินเฟ้อปีหน้าจะอยู่ที่ 3.2% ลดลงจากเดือนก่อนที่ 3.6% ถือเป็นสัญญาณบวกเพราะ เป็นการลดลงครั้งแรกตั้งแต่ตุลาคมปีก่อน แต่สิ่งที่ทุกคนรอลุ้นจริงๆ ก็คือ ตัวเลขอย่าง ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI เดือนพฤษภาคมที่จะประกาศวันพุธนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อจะขยับขึ้นเป็น 2.5% จาก 2.3% และ Core CPI จะขึ้นเป็น 2.9% จาก 2.8% ซึ่งถ้าตัวเลขออกมาร้อนแรงกว่าคาด ตลาดอาจผันผวนแรง เพราะ Fed อาจต้องชะลอการลดดอกเบี้ยหรืออาจขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มได้

วันพฤหัสก็จะมีตัวเลข PPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) ซึ่งคาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 2.6% จาก 2.4% เช่นกัน ส่วนวันศุกร์ก็จะมีผลสำรวจเงินเฟ้อจากมหาวิทยาลัย Michigan มาปิดท้ายสัปดาห์

ความน่าสนใจคือ ช่วงนี้ Fed เข้าสู่ “ช่วงเงียบ” ก่อนประชุมสัปดาห์หน้า ทำให้ตลาดต้องตีความข้อมูลเองโดยไม่มีคำใบ้จาก Fed ยิ่งบวกกับตัวเลขจ้างงานเดือนพฤษภาคมที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ตลาดยิ่งลุ้นกันว่า Fed จะเอายังไงกับอัตราดอกเบี้ยต่อไป

อีกประเด็นที่ตลาดจับตาคือการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้ง 10 ปีและ 30 ปี ซึ่งถ้าผลตอบแทน (yield) ขึ้นไปแตะ 5% โดยเฉพาะในช่วงที่หนี้สหรัฐฯ พุ่งสูงและมีแผนลดภาษีขนาดใหญ่ อาจทำให้ตลาดหุ้นสะเทือน เพราะต้นทุนการเงินจะสูงขึ้นและเงินอาจไหลออกจากหุ้นไปหาพันธบัตรแทน

ขณะเดียวกัน ตลาดยังต้องจับตาเรื่องสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน เพราะถ้ามีข่าวดี หุ้นอาจไปต่อได้อีก แต่ถ้ามีข่าวลบหรือเงินเฟ้อออกมาร้อนแรงกว่าคาด อาจทำให้ตลาดพักฐานแรงได้เหมือนกัน

ช่วงนี้ตลาดหุ้นโลกยังได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ดูแข็งแกร่งและความหวังเรื่องดอกเบี้ยขาลง แต่ความเสี่ยงก็มีทั้งเรื่องเงินเฟ้อที่อาจกลับมาร้อนแรง ผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น และความไม่แน่นอนทางการค้ากับจีน แนะนำให้เพื่อนๆนักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่างใกล้ชิด อย่าเพิ่งรีบตามตลาดช่วงที่ตลาดขึ้นแรง และควรเตรียมแผนรับมือความผันผวนไว้เสมอ เพราะตลาดรอบนี้ “เร็ว แรง และเปลี่ยนไว” จริงๆ!