สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันเสาร์ที่ 12 เม.ย. 2025: เกิดอะไรขึ้น? หุ้นสหรัฐฯ พุ่ง แต่พันธบัตรกับดอลลาร์โดนเทขาย!!

เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯพลิกกลับมาเป็นบวก หลังจากผ่านสัปดาห์ที่ผันผวน โดย Dow Jones บวกไป +1.56% ส่วน S&P 500 ขยับขึ้น +1.81% และ Nasdaq ปิดบวก +2.06% แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านักลงทุนกำลังกังวลเรื่องตลาดพันธบัตรและค่าเงินดอลลาร์มากกว่า

พันธบัตรอายุ 2 ปีให้ผลตอบแทนขึ้นไปที่ 3.93% พันธบัตร 10 ปีขึ้นไปที่ 4.46% ส่วนพันธบัตร 30 ปีอยู่ที่ 4.86% ลงมาหลังจากที่พุ่งไปเกิน 5% ในตอนเช้า และค่าเงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงไป -0.8% เหมือนกับว่านักลงทุนต่างชาติกำลังขายทั้งพันธบัตรและเงินดอลลาร์พร้อมกัน

เรื่องน่าสนใจคือ ตอนแรกหลังการเลือกตั้งปี 2024 นักวิเคราะห์ Wall Street เชื่อว่าการขึ้นภาษีนำเข้าจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับตรงกันข้าม ทั้งๆที่ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาสัปดาห์นี้ก็ดูดี นักลงทุนเลยสับสบว่า เกิดอะไรขึ้น?!

คุณ David Donabedian ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ CIBC บอกว่า ก่อนหน้านี้ทั่วโลกเคยมองว่าสหรัฐฯเป็นครองแชมป์เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุด ทำให้นักลงทุนทั่วโลกพร้อมใจกันเทเงินเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ แต่ตอนนี้มีความกังวลใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจกระทบกับเศรษฐกิจในวงกว้าง ทำให้นักลงทุนเริ่มคิดใหม่ว่า "หรือสหรัฐฯอาจไม่ได้น่าลงทุนเท่าที่คิด"

แต่ก็มีสัญญาณบวกอยู่บ้าง กองทุน ETF ที่ลงทุนในพันธบัตรอายุยาวเกิน 20 ปี (ชื่อย่อคือ TLT) ที่ในตอนเช้าราคาลงไป -1% ตอนนี้กลับมาบวกได้ +0.4% แล้ว บริษัทวิเคราะห์หุ้นอย่าง BTIG บอกว่านี่อาจเป็นสัญญาณว่า ตลาดพันธบัตรอาจจะตกลงไปจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว และถ้าพันธบัตรเริ่มทรงตัวได้ หุ้นก็น่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในเร็วๆนี้