สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันเสาร์ที่ 14 มิ.ย. 2025: อิสราเอล-อิหร่านเดือด!! ตลาดหุ้นทั่วโลก 'ร่วง'!! น้ํามัน-ทองคํา-หุ้นป้องกันประเทศ 'พุ่งทะยาน'!!

เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วนหนักเพราะ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน หลังจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงกว่า 7% ทันที เพราะตลาดกลัวว่าความขัดแย้งจะลุกลามไปกระทบกับซัพพลายน้ำมันโลก ซึ่งอิหร่านถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก พอราคาน้ำมันขึ้น หุ้นกลุ่มพลังงานใน S&P 500 เลยสวนทางตลาด วิ่งขึ้นแรง ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะสายเทคและหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจโดยรวม ร่วงกันถ้วนหน้า

โดย Dow Jones หล่นไป -1.79% ขณะที่ S&P 500 ลดลง -1.13% และ Nasdaq ก็ลงไป -1.30% เรียกว่าความเสี่ยงสูงขึ้น นักลงทุนแห่ไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำกับเงินเยนทันที ส่วนหุ้นสายป้องกันประเทศอย่าง Lockheed Martin, RTX, Northrop Grumman ก็ได้อานิสงส์บวกสวนตลาด เพราะคนมองว่าความขัดแย้งแบบนี้จะทำให้ประเทศต่างๆ เพิ่มงบกลาโหม

สิ่งที่ต้องจับตาต่อคือ ท่าทีของ Fed ในการประชุมกลางสัปดาห์หน้า เพราะแม้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะดูดีขึ้นบ้าง แต่ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแบบนี้อาจไปกระทบเงินเฟ้อในอนาคตได้อีก และยังมีแรงกดดันจากนโยบายภาษีของทรัมป์ที่อาจทำให้เงินเฟ้อกลับมาสูง Fed เลยยังคงท่าที “รอดูสถานการณ์” ไม่รีบลดดอกเบี้ยเร็วๆ นี้แน่นอน ตลาดคาดว่าอาจต้องรอไปถึงปลายปีถึงจะได้เห็นการลดดอกเบี้ยจริงจัง

เหตุการณ์นี้เป็นแค่หนึ่งใน “ความไม่แน่นอน” ด้านความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดในวงกว้าง หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์คือ กลุ่มพลังงานกับกลุ่มป้องกันประเทศ ส่วนหุ้นกลุ่มที่ขึ้นลงตามวัฏจักรเศรษฐกิจ และหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย ก็จะยังถูกกดดันต่อเนื่อง การปรับพอร์ตและถือเงินสดบางส่วนไว้รอจังหวะอาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม ถ้าความขัดแย้งคลี่คลาย ตลาดอาจฟื้นตัวกลับมาได้ เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีสัญญาณฟื้นตัวหลายจุด สุดท้ายแล้ว “โอกาส” มักมาพร้อม “วิกฤต” เสมอ อยู่ที่เราจะมองเห็นและเตรียมตัวทันหรือเปล่า