• ลงทุนหุ้นอเมริกา
  • Posts
  • สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ อังคารที่ 16 ก.ย. 2025: กระทิงคลั่ง!! นับถอยหลัง'การประชุม Fed'!! แต่ระวัง "กับดัก" หลังประชุม Fed สัปดาห์นี้!

สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ อังคารที่ 16 ก.ย. 2025: กระทิงคลั่ง!! นับถอยหลัง'การประชุม Fed'!! แต่ระวัง "กับดัก" หลังประชุม Fed สัปดาห์นี้!

ช่วงนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะ S&P 500 กับ Nasdaq กำลังทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Magnificent Seven เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการทำให้ดัชนีขึ้นไปสูงที่สุดในปีนี้ แม้ว่า Nvidia จะไม่บวกเหมือนตัวอื่น แต่ Alphabet โดดเด่นสุด เพราะมีมูลค่าตลาดทะลุ $3 ล้านล้านเป็นครั้งแรกอีกด้วย

โดย Dow Jones เพิ่มขึ้นประมาณ +0.11% S&P 500 ขึ้นประมาณ +0.47% และ Nasdaq ที่มีหุ้นเทคโนโลยีรวมอยู่มากที่สุด พุ่งขึ้น +0.94% เท่ากับว่าทั้ง S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดด้วยสถิติสูงสุดใหม่ โดย Nasdaq สร้างสถิติสูงสุดในรอบปีนี้เป็นครั้งที่ 26 ส่วน S&P 500 ก็เป็นครั้งที่ 25 ในปีนี้

ตลาดตอนนี้จับตาการประชุมเรื่องดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มช่วงสัปดาห์นี้ โดยคนส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 0.25% ขณะที่ความเป็นไปได้ของการลด 0.5% ยังต่ำมาก (แค่ 4%) ตามข้อมูลจาก CME FedWatch tool

นักวิเคราะห์จาก E*TRADE บอกว่าข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่งออกมามีทั้งด้านบวกและลบ ดังนั้น Fed อาจจะเน้นเรื่องการจ้างงานมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ลืมเป้าหมายอีกครึ่งหนึ่งที่ต้องดูแล คือเงินเฟ้อ

ปรากฏการณ์รอบนี้ มีคนจับตาว่า ถ้า Fed ตัดสินใจลดดอกเบี้ยจริง อาจเกิดสถานการณ์ที่เรียกว่า “ซื้อข่าวลือ ขายข่าวจริง” ซึ่งหมายถึง นักลงทุนอาจซื้อหุ้นล่วงหน้าตามข่าวลือลดดอกเบี้ย แล้วรีบขายหุ้นออกทำกำไรเมื่อข่าวจริงประกาศ ทำให้ราคาหุ้นอาจขึ้นและลงตามจังหวะที่มีการประกาศของ Fed

นักวิเคราะห์เชิงเทคนิคบอกว่า ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน S&P 500 ยังคงแข็งแกร่ง เพราะขนาดการปรับฐานรุนแรงสุดแค่ประมาณ 3.5% เท่านั้น และตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม S&P 500 ก็ไม่ตกลงแรงเกิน 1% เลย หมายถึงตลาดยังไม่ขาดแรงซื้อ แม้จะมีข่าวลบหรือวันลงแรงๆ ก็ตาม

สถานการณ์ตลาดหุ้นสหรัฐฯรอบนี้เติบโตต่อเนื่องด้วยแรงหนุนจากกลุ่ม Magnificent Seven ขณะที่ความเสี่ยงสำคัญอยู่ที่ท่าทีของ Fed เรื่องดอกเบี้ย หาก Fed ส่งสัญญาณผ่อนคลายจริง ก็อาจเกิดแรงขายทำกำไรชั่วคราว แต่ตลาดยังไม่ได้แสดงสัญญาณอ่อนแออย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญสำหรับนักลงทุนที่จับตาความต่อเนื่องและความแข็งแกร่งของรอบนี้