ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 ของ Micron Technology หุ้นโดนเท -8%

ข้อดีของผลประกอบการ

  • รายได้รวมอยู่ที่ $8.05 พันล้าน เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

  • กำไรต่อหุ้น (Non-GAAP EPS) อยู่ที่ $1.56 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ $1.44

  • รายได้จาก HBM (High Bandwidth Memory) ทะลุ $1 พันล้านเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของบริษัท

  • รายได้จาก Data Center DRAM เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน และทำสถิติสูงสุดใหม่

  • กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น $3.94 พันล้าน เทียบกับ $1.22 พันล้านในช่วงเดียวกันของปีก่อน

  • บริษัทมีความคืบหน้าในเทคโนโลยี "1-gamma DRAM node" ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยี EUV เป็นครั้งแรก

  • บริษัทคาดการณ์ว่าจะมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2025

ข้อกังวลที่นักลงทุนมองเห็น

  • รายได้ลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวในบางส่วนของธุรกิจ

  • กำไรขั้นต้น (Gross Margin) ลดลง 160 basis points มาอยู่ที่ 37.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

  • ปัญหาด้านแรงกดดันราคา NAND และระดับสินค้าคงคลังที่สูง ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ

  • การใช้กำลังการผลิตต่ำกว่าศักยภาพในส่วนของการผลิต NAND ส่งผลให้มีต้นทุนสูงขึ้น

  • กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) ยังคงติดลบที่ -$75 ล้าน แม้จะมีทิศทางที่ดีขึ้นก็ตาม

  • บริษัทต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น (startup costs) ที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้

เหตุผลที่นักลงทุนเทขายหุ้น Micron

หลังจากประกาศผลประกอบการออกมา หุ้น Micron ขึ้นไปประมาณ 5-6% ในช่วงเย็นของวันที่ประกาศผลประกอบการ แต่กลับร่วงลงถึง 8% ในวันถัดมาครับ นี่คือเหตุผลหลักที่นักลงทุนตัดสินใจขาย:

  1. ความกังวลเรื่องกำไรขั้นต้น

    • นักวิเคราะห์จาก UBS เรียกความเห็นของบริษัทเกี่ยวกับกำไรขั้นต้นว่าเป็น "จุดด่างพร้อยเล็กๆ"

    • ทาง Citi ถึงกับปรับลดเป้าราคาจาก $150 เหลือ $120 เนื่องจาก "ปัญหากำไรขั้นต้นที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง"

  2. การเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนผลิตภัณฑ์

    • การเปลี่ยนไปมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคที่มีราคาต่ำกว่าส่งผลลบต่อความสามารถในการทำกำไร

    • ถึงแม้ธุรกิจ AI และ Data Center จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ธุรกิจหลักของ Micron ยังผูกกับตลาดดั้งเดิมอย่าง PC และสมาร์ทโฟนที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดครับ

  3. ต้นทุนการผลิตและการลงทุนในอนาคต

    • ต้นทุนจากการใช้กำลังการผลิตต่ำกว่าศักยภาพใน NAND จะส่งผลกระทบต่อสินค้าคงคลังในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 และยืดเยื้อไปถึงปี 2026

    • บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น (startup costs) ที่เพิ่มขึ้นเมื่อสิ้นสุดปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นตลอดปี 2026 โดยเฉพาะจากการลงทุนในไอดาโฮและ DRAM โหนดใหม่

  4. ความเสี่ยงจากการพึ่งพาจีน

    • การพึ่งพาตลาดจีนท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานหรือทำให้เกิดภาษีใหม่ที่จะกระทบกำไรครับ

สรุปแล้ว ถึงแม้ Micron จะมีผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาดและมีแนวโน้มที่ดีในธุรกิจ AI แต่นักลงทุนยังมองเห็นความเสี่ยงในระยะสั้นถึงระยะกลาง โดยเฉพาะเรื่องการหดตัวของกำไรขั้นต้นและต้นทุนที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทำให้หลายคนตัดสินใจทำกำไรจากการที่หุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้ว 22% ในปี 2025 และรอดูพัฒนาการต่อไปครับ