- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันจันทร์ที่ 20 ต.ค. 2025: ฟื้นแรง!! หุ้นใหญ่-หุ้นเล็ก วิ่งไม่หยุด!! ส่อง "ปัจจัย" หนุนตลาดหุ้นกลับไป "จุดสูงสุด"?
สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันจันทร์ที่ 20 ต.ค. 2025: ฟื้นแรง!! หุ้นใหญ่-หุ้นเล็ก วิ่งไม่หยุด!! ส่อง "ปัจจัย" หนุนตลาดหุ้นกลับไป "จุดสูงสุด"?

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวแรงในวันจันทร์ ส่งผลให้ S&P 500 ขยับกลับขึ้นมาเท่ากับระดับก่อนการเทขายวันที่ 10 ตุลาคม และเข้าใกล้จุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง และ Dow Jones เพิ่มขึ้นกว่า +1.12% ขณะที่ S&P 500 ขึ้น +1.07% และ Nasdaq พุ่ง +1.37% ทั้งสามดัชนีอยู่ไม่ห่างจากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากนัก
แรงหนุนสำคัญมาจากหุ้น Apple ที่พุ่งขึ้นมาก ช่วยเพิ่มพลังให้ทั้งตลาด โดยเฉพาะในวันเดียวกันที่หุ้นขนาดเล็กอย่าง Russell 2000 ก็โดดเด่นเช่นกัน นักลงทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มนี้อีกครั้ง เพราะมองว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงในอนาคต
การที่ S&P 500 กลับขึ้นมาสู่ระดับก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าจากจีน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มมีความหวังว่า สหรัฐฯ กับจีนจะสามารถรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าให้ไม่ตึงเครียดมากนัก ขณะเดียวกัน ฤดูกาลประกาศผลประกอบการรอบใหม่ก็ถือว่ามีผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งกว่าคาด
Callie Cox นักกลยุทธ์ตลาดจาก Ritholtz Wealth Management กล่าวขอบคุณ “ฤดูกาลผลประกอบการ” ที่ช่วยให้ตลาดมีข้อมูลพื้นฐานเพิ่มขึ้น หลังจากช่วงก่อนหน้านั้นนักวิเคราะห์ขาดข้อมูลจนเกิดความกังวลกับข่าวรายวันมากเกินไป เธอมองว่าการมีตัวเลขผลประกอบการต่อเนื่องจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้ตลาด
แม้แต่ตลาดพันธบัตรก็ร่วมฟื้นตัวด้วย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ลดลงเหลือ 3.46% ส่วนพันธบัตร 10 ปี ลดลงเล็กน้อยต่ำกว่า 4% โดย NatAlliance Securities มองว่าอัตราผลตอบแทนมีแนวโน้มทรงตัวที่ราว 3.93% แต่หากเกิดความกังวลด้านเครดิตหรือข้อตกลงทางการค้ากับจีนล่ม ก็อาจเห็นแรงกดดันอีกระลอก
ในภาพรวม การดีดตัวของตลาดรอบนี้ถือว่าเป็น “Everything Rally” เพราะสินทรัพย์แทบทุกประเภทปรับตัวขึ้นพร้อมกันทั้งหุ้นใหญ่ หุ้นเล็ก และพันธบัตร สะท้อนว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหลังจากช่วงความผันผวนต้นเดือน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังได้แรงหนุนทั้งจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและความคาดหวังว่านโยบายดอกเบี้ยจะผ่อนคลายลง หากความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนยังไม่ตึงเครียด ตลาดอาจมีโอกาสขยับสู่ระดับสูงสุดใหม่ในไม่ช้า แต่ก็ยังต้องระวังความเสี่ยงจากข่าวเศรษฐกิจที่อาจพลิกทิศได้ทุกเมื่อ