- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันพฤหัสฯที่ 23 ต.ค. 2025: เด้งแรง!! Nasdaq นําทีม "หุ้นเสี่ยง"ฟื้น!! แห่ช้อนก่อน "ตัวเลขเงินเฟ้อ" ศุกร์นี้!
สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันพฤหัสฯที่ 23 ต.ค. 2025: เด้งแรง!! Nasdaq นําทีม "หุ้นเสี่ยง"ฟื้น!! แห่ช้อนก่อน "ตัวเลขเงินเฟ้อ" ศุกร์นี้!

ตลาดหุ้นสหรัฐฯกลับมาเคลื่อนไหวคึกคักในวันพฤหัสบดี โดยเฉพาะ Nasdaq ที่ปรับตัวขึ้นแรงก่อนที่รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ CPI จะประกาศในวันศุกร์นี้ ส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นกลุ่มเสี่ยงมากขึ้นหลังตลาดซบเซาไปช่วงหนึ่ง โดย Dow Jones ขึ้น +0.31% ขณะที่ S&P 500 เพิ่มขึ้น +0.58% และ Nasdaq ขึ้นถึง +0.89% โดยสามดัชนีแตะระดับสูงสุดใกล้ปิดประวัติการณ์ ก่อนจะปรับลดลงเล็กน้อยช่วงท้ายตลาด
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ก็ปรับขึ้นเล็กน้อยในรอบสามวัน โดยพันธบัตร 2 ปี อยู่ที่ 3.48% และ 10 ปี อยู่ที่ 3.99% ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดกำลังจับตาข้อมูลเงินเฟ้อที่จะออกมา
ตัวเลข CPI เดือนกันยายนที่กำลังจะประกาศนั้นมีความสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้โดนเลื่อนเนื่องจากหน่วยงานรัฐปิดทำการ หากตัวเลขออกมาไม่น่าพอใจ ก็อาจจะส่งผลต่อเดิมพันเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed โดยตอนนี้นักลงทุนหลายคนเริ่มลดความหวังว่าจะมีการลดดอกเบี้ยถึงสองครั้งก่อนสิ้นปี จากข้อมูลของ CME FedWatch Tool พบว่าโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยครึ่งเปอร์เซ็นต์ในสิ้นปีนี้ เหลือเพียง 91.9% จากเดิม 95.5% ในวันก่อนหน้า สำนักงานสถิติแรงงานของรัฐ (Bureau of Labor Statistics) ยืนยันว่าจะประกาศรายงานนี้เพื่อให้สำนักงานประกันสังคม ใช้คำนวณปรับเงินสวัสดิการตามเงินเฟ้อ แต่ข้อมูลอื่นจะยังไม่ถูกปล่อยจนกว่ารัฐบาลจะกลับมาทำงานปกติ
หลังจากราคาตลาดหุ้นตกหนักเมื่อวันพุธ หุ้นกลุ่มเสี่ยงและหุ้นเทคโนโลยีอย่าง quantum computing, crypto และ nuclear ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ภาพรวมตอนนี้กลับกลายไปในทิศทางตรงข้ามกับช่วงก่อนหน้า โดยหุ้นที่คนถือเยอะๆ, หุ้นความผันผวนสูง และหุ้นกระแส ต่างกลับมาทำผลงานโดดเด่น
ส่วนนักลงทุนยังรอดูว่า โอกาสที่หุ้นดีๆจะราคาลดลงก่อนจะเข้าซื้อ ในสัปดาห์หน้ามีหุ้นใหญ่ในกลุ่ม “Magnificent Seven” ประกาศผลประกอบการถึงห้าตัว และ NVidia จะตามมาในเดือนพฤศจิกายน
การเคลื่อนไหวของตลาดขณะนี้ขึ้นกับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญและจังหวะรายงานผลประกอบการของหุ้นใหญ่เป็นหลัก ในช่วงที่ภาวะไม่แน่นอนสูง ขณะที่นักลงทุนควรติดตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับวิธีลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและสถานการณ์ปัจจุบัน