- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ 25 ก.ค. 2025: 'Google' แบก - 'IBM' ฉุด!! เบื้องหลังวันที่ Nasdaq ทะยานฟ้า แต่.. Dow Jones ดิ่งเหว!!
สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ 25 ก.ค. 2025: 'Google' แบก - 'IBM' ฉุด!! เบื้องหลังวันที่ Nasdaq ทะยานฟ้า แต่.. Dow Jones ดิ่งเหว!!

เมื่อวานตลาดหุ้นสหรัฐฯป่วนใช้ได้เลย แต่สรุปคือ S&P 500 กับ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดยปิดบวก +0.07% และ +0.18% ตามลำดับ ส่วนดัชนี Dow Jones กลับสวนทาง ลงไปพอสมควร -0.70%
แต่จุดที่น่าสนใจคือ หุ้นเทคโนโลยีใหญ่ๆอย่าง Alphabet (Google) รายงานกำไรไตรมาสที่ 2 ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคฯและ AI ได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศช่วงนี้ใครอยู่สายหุ้นเทคโนโลยีรู้สึกได้เลยว่าตลาดให้อารมณ์บวกมาก โดยเฉพาะหลังข่าวที่มีความคืบหน้าเรื่อง ดีลการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น-ยุโรป ซึ่งช่วยลดแรงกดดันจากประเด็นภาษีลงไปพอสมควร
แต่ฝั่ง Dow Jones กลับโดนฉุดแรง โดยเฉพาะหุ้น IBM ที่ร่วงกว่า -7.62% หลังเปิดงบออกมาแล้วนักลงทุนผิดหวังกับยอดขายซอฟต์แวร์ ขณะที่ UNH (UnitedHealth) กับ Honeywell International เองก็ลงแรงเพราะประเด็นโดนสอบจากหน่วยงานรัฐ กลายเป็นว่าแม้จะมีหุ้น Nvidia ขึ้นช่วยพยายามดันดัชนี แต่โครงสร้างของ Dow Jones ที่วัดน้ำหนักเป็นราคาหุ้นเลยถูกแรงลบจาก IBM กับกลุ่มเฮลธ์แคร์-อุตสาหกรรมกดหนักจนช่วยไม่ไหว
ช่วงนี้รายงานผลประกอบการทยอยออกมาตลอด หลายบริษัทใน S&P 500 ออกงบ Q2 ได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เกือบ 80% ผลคือกระแสหุ้นใหญ่ๆ ยังเป็นบวกต่อเรื่องเศรษฐกิจและทิศทางเงินเฟ้อ ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ขยับขึ้น โดย 2 ปี อยู่ที่ 3.92% และ 10 ปี ขึ้นไป 4.41% สะท้อนว่าตลาดยังให้น้ำหนักด้านเศรษฐกิจฟื้นตัวดีอยู่
อีกเรื่องนึงที่คนจับตาคือประเด็นการเมือง หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศจะขึ้นเยี่ยมอาคารเฟด ซึ่งหลายคนกังวลว่าการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้อาจถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงนโยบายการเงินหรือกดดันประธาน Fed อย่าง Powell มากไป ถ้าตลาดตีความว่าความเป็นอิสระของ Fed ถูกลดทอน อาจมีผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดแรงกว่าเดิม แล้วอาจกดดันหุ้นในบางกลุ่มได้
บรรยากาศตอนนี้คือ ฝั่งเทคโนโลยีชัดเจนว่ายังโดดเด่นจากกระแส AI และแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดี แต่ด้านหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม-ประกันสุขภาพยังมีความผันผวนสูง จากปัจจัยเฉพาะบริษัท และการเคลื่อนไหวของกฎหมายหรือหน่วยงานรัฐ
ระยะสั้นยังเป็นจังหวะของเม็ดเงินไหลเข้าหุ้นใหญ่โดยเฉพาะเทคโนโลยีและ AI แต่ควรระวังความแกว่งแรงในหุ้นกลุ่มดั้งเดิมและบริษัทที่งบออกมาไม่ร้อนแรงพอ และปัจจัยเสี่ยงเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและการเมืองสหรัฐฯ ที่อาจมากระทบชุดใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว