• ลงทุนหุ้นอเมริกา
  • Posts
  • สรุปตลาดหุ้นสหรัฐ วันอังคารที่ 26 ส.ค. 2025: ตลาดพักฐาน!! จับตางบ Q2 'Nvidia' พุธนี้.. ชี้ชะตา!!

สรุปตลาดหุ้นสหรัฐ วันอังคารที่ 26 ส.ค. 2025: ตลาดพักฐาน!! จับตางบ Q2 'Nvidia' พุธนี้.. ชี้ชะตา!!

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐจับตามองไปที่ Nvidia อย่างแรง เพราะผลประกอบการที่จะประกาศในวันพุธหลังปิดตลาด อาจเป็นตัวแปรสำคัญว่าจะดันหรือกดดันตลาดต่อจากแรงหนุนที่ได้มาจากสุนทรพจน์ของประธาน Fed เจอโรม พาวเวล ที่งานประชุม Jackson Hole เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นเพราะนักลงทุนตีความว่ามีโอกาสสูงที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยเดือนกันยายน แต่เมื่อแรงกระตุ้นจากการประชุมเริ่มจางลง ทุกสายตาก็หันมาหา Big Tech โดยเฉพาะ Nvidia

เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐโดยรวมปิดในแดนลบ โดย S&P 500 ลดลง -0.43% ส่วน Dow Jones ร่วงแรงกว่า -0.77% ขณะที่ Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยี ปรับตัวลงเล็กน้อย -0.22% บรรยากาศโดยรวมยังแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังลังเลและรอปัจจัยใหม่ โดยเฉพาะผลประกอบการจาก Nvidia

Nvidia ถือเป็นหุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดในกองทุน SPDR S&P 500 ETF ถึง 7.9% ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของหุ้นนี้มีอิทธิพลมหาศาลต่อตลาดโดยรวม ล่าสุดหุ้น Nvidia ปิดบวก +1.02%

Big Tech โดยรวมมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆในตลาด จากข้อมูล Nvidia, Microsoft และ Apple รวมกันคิดเป็น 21% ของดัชนี S&P 500 และถ้าเพิ่ม Amazon, Meta และ Alphabet เข้าไป จะขึ้นไปเกือบหนึ่งในสามของดัชนี จุดนี้ทำให้นักวิเคราะห์เตือนว่า “ความเสี่ยงจากการกระจุกตัว” กำลังจริงจังและชัดเจนมากขึ้น

สำหรับโดยรวม ผลประกอบการไตรมาสสองของบริษัทใน S&P 500 กว่า 474 แห่งที่รายงานออกมาแล้ว ปรากฏว่า 80% ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ หมายความว่าภาพรวมกำไรภาคธุรกิจถือว่าดี แต่ตัวแปรหลักที่ทุกคนจับตา คือ Nvidia เพราะเป็นรายใหญ่สุดที่ยังไม่ได้ประกาศผล

Nvidia เองปีนี้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกือบ 34% เมื่อเทียบกับ S&P 500 ที่บวกเพียง 9.5% และ ETF Magnificent Seven ที่บวก 10.4% โดยตอนนี้นักลงทุนคาดหวังสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การเทียบกับงบปีที่แล้วไม่ง่าย ถ้า Nvidia ออกตัวเลขดีกว่าที่คิด ตลาดอาจพุ่งแรงต่อ แต่ถ้าต่ำกว่าที่คาด ความมั่นใจของนักลงทุนก็อาจสั่นคลอนทันที

ประเด็นสำคัญที่สุดคือ ผลประกอบการของ Nvidia ที่ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่กับบริษัทเดียว แต่ยังสะท้อนถึงกระแส AI ทั้งหมด และชี้ทิศทางของตลาดโดยรวมในระยะสั้น ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงจากการที่ตลาดพึ่ง Big Tech มากเกินไปกำลังเพิ่มขึ้น จึงทำให้ผลของ Nvidia กลายเป็นตัวแปรชี้ชะตาที่นักลงทุนไม่อาจมองข้าม