• ลงทุนหุ้นอเมริกา
  • Posts
  • สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันจันทร์ที่ 27 ต.ค. 2025: กระทิงดุ!! S&P 500 ทุบ "สถิติใหม่" รอบที่ 35!! รอ Fed "ลดดอกเบี้ย" พุธนี้!?

สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันจันทร์ที่ 27 ต.ค. 2025: กระทิงดุ!! S&P 500 ทุบ "สถิติใหม่" รอบที่ 35!! รอ Fed "ลดดอกเบี้ย" พุธนี้!?

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันจันทร์นี้บรรยากาศคึกคักมาก เพราะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขึ้นนำ ดัน S&P 500 ปิดทำสถิติสูงสุดใหม่รอบที่ 35 ในปี 2025 ซึ่งถือว่าสูงกว่าดัชนีอื่นๆ ทั้ง Dow Jones และ Nasdaq ที่ก็ขึ้นตามไปด้วย โดย S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น +1.23% ส่วน Dow Jones เพิ่มขึ้น +0.71% และ Nasdaq โตแรงสุด +1.86% บรรยากาศดีไม่ได้มีเฉพาะหุ้นใหญ่ เพราะหุ้นขนาดเล็กใน Russell 2000 ก็ขยับขึ้น +0.28% แม้ว่าจะไม่แรงเท่าหุ้นกลุ่มเทคฯก็ตาม

สิ่งที่เรียกความสนใจคือหุ้นบริษัทเทคฯ ใหญ่ เช่น Apple, Alphabet และกลุ่ม Magnificent Seven ที่รวมหุ้นเทคฯดาวเด่นขึ้นมากกว่า +2% ในช่วงท้ายวัน Qualcomm ที่เป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ก็โกยมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง $3 หมื่นล้านในวันเดียว ปิดตลาดไปด้วยราคาหุ้นเพิ่ม +11% แบบโดดเด่น

สัปดาห์นี้นักลงทุนคาดหวังกับรายงานผลประกอบการจาก Amazon และ Meta เพราะมองว่า AI กับยอดกำไรจะออกมาดีกว่าคาด ส่วนบรรยากาศโดยรวมในตลาดหุ้นก็มองไปข้างหน้าเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ยวันพุธนี้ ซึ่งช่วยหนุนตลาดอย่างชัดเจน ประเด็นสำคัญอีกข้อคือ งบการเงินไตรมาสสามของบริษัทใน S&P 500 โตขึ้น 9.2% เมื่อเทียบปีต่อปี ถ้าตัวเลขนี้ยังคงเติบโต จะถือว่าเป็นไตรมาสที่ 9 ติดต่อกันที่รายได้รวมตลาดยังคงเพิ่มขึ้น

แต่ก็มีเสียงวิเคราะห์ว่า ตัวเลขคาดการณ์จริงอาจจะยังต่ำไป เพราะความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังเป็นปัจจัยกวนใจ แม้จะมีผลกระทบน้อยลงก็ตาม และถ้ามองผลตอบแทนเฉลี่ยจากหุ้นที่รายงานกำไรเกินคาดในไตรมาสนี้ จะเห็นว่าได้ผลตอบแทนเพิ่ม 1.3% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.6% หมายความว่าตลาดยังไม่ตอบรับด้วยแรงซื้อเกินคาดเหมือนอดีต

สัปดาห์นี้อาจเห็นจุดเปลี่ยน เพราะประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐฯ เตรียมจะพบกับประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนในวันพฤหัสบดี โดยคณะเจรจาสองฝ่ายปูทางไปสู่ข้อตกลงการค้าใหม่ที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะหยุดทำงานชั่วคราวและมีข่าวปลดพนักงานในบริษัทใหญ่อย่าง Nestle กับ Target แต่โดยรวมตลาดหุ้นยังให้ความสนใจกับข่าวดีมากกว่าเรื่องแย่ในช่วงนี้

เห็นชัดว่าตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยหุ้นเทคโนโลยีและความหวังเรื่องการลดดอกเบี้ย รวมถึงความคาดหวังว่าเศรษฐกิจและธุรกิจจะดีขึ้นจากทิศทางการค้าระหว่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยกวนใจ ก็ยังไม่มีอะไรหยุดโมเมนตัมเชิงบวกได้ในระยะสั้นนี้