สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. 2025: จบสวย! 'S&P 500' และ 'Nasdaq' ทํา All-Time High!! สงครามการค้าแคนาดาเอาไม่ลง??

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดแบบสวยๆ! โดย S&P 500 กับ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ S&P และ Nasdaq บวกขึ้นมา +0.52% ส่วน Dow Jones ก็ปรับตัวขึ้นมา +1%

ทั้งที่ระหว่างวันมีดราม่าเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับแคนาดา เพราะ ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐฯ จะยุติการเจรจาการค้าทั้งหมดกับแคนาดา เพื่อเป็นการตอบโต้ที่แคนาดาตัดสินใจจะเก็บภาษีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Meta ซึ่งทรัมป์ได้โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียของเขา (Truth Social) ว่า สหรัฐฯ จะตัดสินใจเรื่องอัตราภาษีกับแคนาดาภายใน 7 วันข้างหน้า งานนี้สร้างความกังวลให้ตลาดช่วงบ่าย หุ้นแกว่งแรงเพราะนักลงทุนกลัวว่าสงครามการค้าจะกลับมาอีกครั้ง

แต่สุดท้ายตลาดก็รีบาวด์กลับมาได้ เพราะ มีข่าวดีเรื่องกรอบข้อตกลงการค้ากับจีนที่เพิ่งเซ็นกันไป ทำให้บรรยากาศกลับมาเป็นบวก นักลงทุนหันหลังให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรกับทองคำ ราคาทองร่วงแรง ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (Yield) ปรับตัวสูงขึ้น 0.030% เพราะคนเทขายออกจากตลาดพันธบัตร

แรงขับเคลื่อนสำคัญช่วงนี้ยังมาจากความหวังว่า Fed จะลดดอกเบี้ยในปีนี้ หลังมีเจ้าหน้าที่ Fed หลายคนส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้น แถมทรัมป์ก็ออกมากดดันให้ Fed รีบลดดอกเบี้ยด้วย ตลาดเลยเชื่อว่าปลายปีนี้น่าจะได้เห็นดอกเบี้ยขาลงจริงๆ

อีกปัจจัยที่ดันหุ้นเทคโดยเฉพาะ Nasdaq คือกระแส AI ที่ยังแรงไม่หยุด Nvidia กับ Microsoft ถูกคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดแตะ $4 ล้านล้านในซัมเมอร์นี้ ส่วน Micron ก็ประกาศงบดีเกินคาด หุ้นเทคเลยนำตลาดขึ้นยกแผง

สัปดาห์หน้าต้องจับตาอะไร?

รายงานตัวเลขจ้างงานเดือนมิถุนายนกับดัชนีภาคการผลิต โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะมีการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 115,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 139,000 ตำแหน่ง และคาดว่าการจ้างงานในภาคเอกชนก็จะลดลงจากเดือนพฤษภาคมเช่นกัน ถ้าตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด อาจยิ่งหนุนความหวังลดดอกเบี้ย ส่วนเรื่องสงครามการค้ากับแคนาดาต้องตามต่อว่าจะบานปลายหรือจบลงแค่ขู่กันเฉยๆ

ช่วงนี้ตลาดหุ้นดูเหมือนจะไม่สนใจกับข่าวร้ายระยะสั้น แล้ววิ่งตามโมเมนตัมกับความหวังลดดอกเบี้ยและ AI เป็นหลัก แต่ต้องระวังความผันผวนจากประเด็นการเมืองและสงครามการค้า เพราะถ้าอะไรพลิกล็อกขึ้นมาแรงๆ อาจมีการเทขายได้เหมือนกัน เพราะตลาดยังคงอ่อนไหวกับกระแสข่าวมาก แม้ภาพรวมจะยังเป็นขาขึ้นก็ตาม