สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันพุธที่ 5 พ.ย. 2025: กระทิงแกร่ง!! ศาลสูงเบรก "ภาษีทรัมป์"!! S&P 500 ทําสถิติใหม่!! Fed อาจ "ลดดอกเบี้ย"!!

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาคึกคักเมื่อวานนี้ หลังศาลสูงสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มจะไม่รับรองเหตุผลที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ใช้ในการออกมาตรการขึ้นภาษี (หรือที่เรียกว่า “Tariffs”) โดยอาศัยกฎหมาย International Emergency Economic Powers Act หรือ IEEPA ซึ่งการที่ศาลดูเหมือนจะไม่เห็นด้วย ทำให้นักลงทุนคลายกังวลว่า วิกฤตภาษีที่อาจฉุดรายได้บริษัทในสหรัฐฯจะเกิดขึ้นซ้ำอีกในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ Dow Jones ปรับขึ้น +0.48% ขณะที่ S&P 500 เพิ่มขึ้น +0.37% และ Nasdaq บวก +0.65% ภายหลังจากวันก่อนหน้านี้ที่หุ้นเทคโนโลยีเพิ่งถูกเทขายอย่างหนัก

ตลาดคาดว่าศาลสูงไม่น่าจะโหวตให้ฝั่งทรัมป์ โดยโอกาสที่ศาลจะรับรองภาษีตามที่ทรัมป์เสนอ ลดลงไปอยู่ที่ 27% จากที่สูงกว่า 50%

นักวิเคราะห์จาก Mizuho มองว่าหาก IEEPA ถูกตีตกลงจริง จะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องหากฎหมายใหม่มารองรับการรีดภาษี ซึ่งอาจใช้เวลานาน ลดความเสี่ยงระยะสั้นของการเกิดมาตรการภาษีทันที และถ้าต้นทุนจากภาษีลดลง กำไรบริษัทอเมริกันก็มีโอกาสฟื้นตัวมากขึ้น

อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ หากความเสี่ยงเรื่องภาษีผ่อนคลายลง เหตุผลที่ใช้ดันตัวเลขเงินเฟ้อก็จะเหลือน้อยลง ซึ่งหมายถึง Fed อาจเร่งลดดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น แต่ถ้ารัฐบาลใหม่ยังหาช่องทางออกกฎหมายสำหรับภาษีอีกรอบ ก็คงเพิ่มปัจจัยไม่แน่นอนให้ตลาดเช่นกัน

ส่วนตลาดพันธบัตรรัฐ เจอแรงขายหนักในวันเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปี กระโดดไปที่ 3.63%, พันธบัตร 10 ปี ขึ้นไปที่ 4.16% (สูงสุดตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม) และพันธบัตร 30 ปีดีดขึ้นใกล้ 4.74% ซึ่งเป็นการดีดขึ้นแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม สาเหตุมาจากตัวเลขจ้างงาน (ADP) ที่ออกมาดีกว่าคาด, ประกาศการกู้เงินของกระทรวงการคลัง และตัวเลขเศรษฐกิจบริการ (ISM) ที่ดีเกินคาด ตามด้วยประเด็นภาษีนี่แหละที่กดดันต่อเนื่อง

ด้าน S&P 500 ได้สร้างสถิติใหม่ ปิดตลาดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ติดต่อกันเป็นวันที่ 131 ซึ่งนานกว่าสถิติรอบก่อนที่จบลงในปี 2011 สะท้อนความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นในตลาดหุ้นรอบนี้ นักวิเคราะห์เผยว่า จุดสำคัญคือตลาดปรับตัวรับแรงกระแทกได้ดี ทุกครั้งที่หุ้นตกแรงๆ ก็มักจะมีแรงซื้อกลับขึ้นมาเสมอ และการปรับฐานครั้งใหม่จะจบลงด้วยรูปแบบตลาดที่กลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม ผลคือรอบนี้แนวโน้มบวกยังคงอยู่

สิ่งที่เกิดขึ้นในศาลสูงฯ มีผลต่อการคาดการณ์ภาษีและจุดเปลี่ยนของตลาดอย่างชัดเจน ความกังวลเรื่องการออกมาตรการภาษีกดดันกลุ่มธุรกิจใหญ่ในอเมริกามาตลอดหลายปี แนวโน้มที่ศาลอาจไม่รับรองมาตรการของทรัมป์ ส่งผลบวกระยะสั้นต่อหุ้นสหรัฐฯ และเปิดทางให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้ง่ายขึ้น หากสงครามภาษีสงบลง รายได้และความเชื่อมั่นของบริษัทก็มีโอกาสดีขึ้นกว่าที่เคยมีก่อนหน้านี้