• ลงทุนหุ้นอเมริกา
  • Posts
  • สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันเสาร์ที่ 6 ก.ย. 25: พิษจ้างงานซบเซา!! Fed 'ลดดอกเบี้ย' 100%!! แต่ทําไมตลาดหุ้น 'ร่วงยกแผง'??

สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันเสาร์ที่ 6 ก.ย. 25: พิษจ้างงานซบเซา!! Fed 'ลดดอกเบี้ย' 100%!! แต่ทําไมตลาดหุ้น 'ร่วงยกแผง'??

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวานนี้เริ่มต้นด้วยความหวังว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงหนุนจากการลดดอกเบี้ย แต่สุดท้ายกลับปิดตลาดในแดนลบ โดยดาวโจนส์ร่วงไป -0.48% ส่วน S&P 500 ลดลง -0.32% และ Nasdaq ลดลงเล็กน้อย -0.03% สาเหตุหลักมาจากรายงานตลาดแรงงานเดือนสิงหาคมที่น่าผิดหวัง โดยสหรัฐฯ เพิ่มงานใหม่เพียง 22,000 ตำแหน่ง และยังปรับตัวเลขเดือนก่อนลดลงอีก 21,000 ตำแหน่งจากที่เคยรายงาน แม้ดูแล้วยังไม่ถึงกับแย่มากในประวัติศาสตร์ แต่ถือว่าตลาดแรงงานกำลังซบเซา

สำนัก CIBC Private Wealth ให้ความเห็นว่า “ตลาดงานตอนนี้นิ่งมาก ไม่มีแรงส่งให้ดีขึ้น” ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าภาวะเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ด้านข้อมูลจาก CME FedWatch Tool พบว่าหลังรายงานนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า Fed จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน 100% และความเป็นไปได้ในการลด 0.5% ก็เพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 10.2% ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จำนวนมากเริ่มเดิมพันว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้

ตลาดพันธบัตรตอบรับด้วยอัตราผลตอบแทน ตราสารหนี้ระยะสั้น 2 ปี ร่วงต่ำสุดในรอบ 1 ปีที่ 3.51% ส่วนพันธบัตร 10 ปี ลดลงเหลือ 4.08% สะท้อนความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจอ่อนแอและ Fed จะต้องอัดฉีดนโยบายผ่อนคลายเพิ่ม

แม้ช่วงเช้าก่อนตลาดจะเปิด รายงานการจ้างงานออกมาทำให้ดัชนีทั้งสามมีลุ้นจะปิดสถิติสูงสุดใหม่ แต่กระแสความกังวลเรื่องแรงงานทำให้ตลาดพลิกเป็นลบ สำนักวิเคราะห์ BTIG เตือนว่า “ถ้าตลาดยังหวังให้ข้อมูลแย่จะนำไปสู่การลดดอกเบี้ย ระวังว่าอาจจะได้อะไรมากกว่าที่ต้องการ” โดยเฉพาะ S&P 500 ต้องรักษาระดับ 6,400 จุดให้ได้ในเดือนกันยายน เพราะหากหลุดจากนี้อาจมีแรงขายต่อเนื่องและชะลอการขึ้นรอบใหม่

นอกจากนี้ เมื่อดูตัวเลขเฉลี่ยการจ้างงาน 3 เดือนหลังอยู่ที่ประมาณ 27,000 ตำแหน่ง ถือว่าน้อยที่สุดตั้งแต่หลังโควิด และต้องย้อนกลับไป 15 ปีจึงจะเจอตลาดแรงงานอ่อนแอแบบนี้ ด้าน Rosenberg Research ชี้ว่านี่คือแบบแผนที่มักเห็นก่อนจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) อย่างเป็นทางการ แม้ในตลาดหุ้นยังไม่ปรากฏความตระหนกมากนัก

ประเด็นสำคัญคือ สัญญาณตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรงชัดเจน กระตุ้นให้ Fed ต้องทบทวนนโยบายและอาจพร้อมลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น แต่ขณะเดียวกันตลาดหุ้นยังเสี่ยงต่อแรงขาย หากเศรษฐกิจนิ่งนานหรืออ่อนแรงเกินไป โดยเฉพาะ S&P 500 ต้องไม่หลุดแนวรับ 6,400 จุดเพื่อรักษาบรรยากาศเชิงบวกไว้ ปัจจัยระยะสั้นจึงเน้นการจับตาท่าที Fed และความแข็งแกร่งของการจ้างงานเดือนถัดไปเป็นหลัก