สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันอังคารที่ 7 ต.ค. 2025: ฟองสบู่ AI แตก? หลังข่าว ORCL ฉุดตลาดหุ้น "ร่วงยกแผง"!!

เมื่อวานนี้ S&P 500 ปรับตัวลดลง -0.38% เป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่กระแสหุ้น AI ที่สร้างแรงผลักดันให้ตลาดมาระยะหนึ่งเริ่มหยุดพัก ขณะที่ Dow Jones ก็ลดลง -0.20% และ Nasdaq ซึ่งมีหุ้นเทคโนโลยีจำนวนมาก ลดลงถึง -0.67% ทั้งที่ในช่วงเช้าทั้ง S&P 500 และ Nasdaq ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดใหม่ระหว่างวัน แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ก็เริ่มอ่อนแรงลง ในขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าจำเป็น, สาธารณูปโภค, การเงิน และสาธารณสุข กลับมีแรงซื้อเข้ามาแทน

สาเหตุหลักที่ทำให้กลุ่มหุ้น AI อ่อนตัวอย่างเห็นได้ชัด เกิดจากรายงานจาก The Information ซึ่งอ้างอิงเอกสารภายในของ Oracle ที่เปิดเผยว่ากำไรขั้นต้นของธุรกิจ Cloud ด้าน AI ของ Oracle ต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ ตัวเลขกำไรขั้นต้นในช่วงสามเดือนล่าสุดอยู่ราว 14% เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นของ Oracle ที่อยู่ราว 70% รวมถึงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม นักวิเคราะห์ชี้ว่านี่สะท้อนถึงความท้าทายด้านต้นทุนสูงของการเช่าเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิป Nvidia ให้บริษัทต่างๆ เช่น OpenAI, Meta หรือ xAI โดยมีการขาดทุนในบางดีลของเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่และรุ่นเก่าด้วย

แม้จะมีข่าวจาก Fox Business ตามมาว่า รายงานที่ว่าไม่สะท้อนสถานการณ์ทางการเงินจริงของ Oracle แต่ความเชื่อมั่นในกลุ่มหุ้น AI ก็ยังสั่นสะเทือน หลังจากหุ้น AI ถูกเก็งกำไรอย่างต่อเนื่องช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะมีกระแสข่าวการลงทุนและความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตชิปและบริษัทพัฒนา AI เช่น การที่ OpenAI จับมือกับ AMD ก็ผลักดันราคาหุ้น AMD พุ่งขึ้นแรง

ถึงแม้ในช่วงนี้ดัชนีจะทำจุดสูงสุดใหม่หลายวันติดต่อกัน ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็ยังอยู่ในช่วงชัตดาวน์ มาต่อเนื่องถึงวันที่ 7 นักลงทุนกลับเริ่มระวังมากขึ้น สะท้อนว่านักลงทุนกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างโอกาสจาก AI กับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการเมือง การปรับฐานเมื่อวานนี้ยังเห็นเงินทุนไหลไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ที่ราคาทะลุ $4,000 ต่อออนซ์ขึ้นมาอีกด้วย

แม้ AI จะเป็นเมกะเทรนด์ในตลาดโลก แต่การเติบโตอาจไม่ได้ง่ายดายและรวดเร็วอย่างใจคิด โดยเฉพาะเมื่อเจอข้อจำกัดด้านต้นทุนและการแข่งขันสูง เช่นกรณีกำไรขั้นต้นของ Oracle ที่ต่ำกว่าคาด ดังนั้นนักลงทุนควรจับตาการทำกำไรจริงของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI ไม่ใช่แค่มองกระแสหรือศักยภาพในอนาคตเท่านั้น