- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ 8 ส.ค. 2025: พลังหุ้นเทค! Nasdaq ดีดกลับแรง!! ทํา 'New High' วันตลาดแดงเดือด!
สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ 8 ส.ค. 2025: พลังหุ้นเทค! Nasdaq ดีดกลับแรง!! ทํา 'New High' วันตลาดแดงเดือด!

เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวนจากแรงกระทบของมาตรการขึ้นภาษีใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีเป้าหมายตอบโต้ประเทศคู่ค้า โดยไม่ใช่ทุกประเทศจะได้รับการยกเว้น ทำให้บรรยากาศตลาดช่วงเช้ายังดูสดใส เพราะนักลงทุนยังเชื่อมั่นว่าตลาดโดยรวม โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี จะยังได้รับแรงหนุนและไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการภาษีเหล่านี้ในทันที
หุ้นโดยรวมพุ่งขึ้น แต่ระหว่างวันแรงซื้อแผ่วลงและเกิดแรงขายตามมา ก่อนที่ Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยีจะดีดกลับแรงจนปิดที่จุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ปรับขึ้น +0.35% แม้ว่าช่วงหนึ่งจะอ่อนตัวลงก็ตาม ในทางกลับกัน S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นใหญ่ทั่วตลาด ติดลบเล็กน้อย -0.08% ขณะที่ Dow Jones ก็ปิดลดลง -0.51%
กลุ่มหุ้นที่ดูโดดเด่นกลับเป็น พลังงานพื้นฐาน, วัสดุ, และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ส่วนกลุ่มที่อ่อนแอคือการเงิน และสุขภาพ ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนอาจเริ่มระวังตัวจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ด้านตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ก็มีผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ขยับขึ้นเป็น 4.24% ขณะที่พันธบัตร 30 ปีพุ่งถึง 4.82% หลังจากผลการประมูลไม่ดีนัก สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อในอนาคต ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้นจากตัวเลขเงินเฟ้อที่กำลังจะประกาศในสัปดาห์หน้า
แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรงเล็กน้อย ซึ่งจากรายงานการจ้างงานก่อนหน้านี้ที่ออกมาต่ำกว่าคาด แต่นักวิเคราะห์ยังมองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปียังไม่น่าจะต่ำกว่า 4% อย่างมีนัยยะสำคัญในระยะสั้น เว้นแต่เศรษฐกิจจะสะดุดแรงมากกว่านี้ ในส่วนของมาตรการขึ้นภาษีรอบใหม่ นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดพยายาม “มองข้าม” และประเมินว่า ยังไม่มีผลกระทบรุนแรงต่อหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ โดยเฉพาะบริษัทที่ลงทุนสายการผลิตในสหรัฐฯ ทำให้หุ้นเหล่านี้ยังคงแข็งแกร่ง
แม้ตลาดจะได้รับแรงสั่นสะเทือนจากข่าวภาษี แต่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจหุ้นเทคโนโลยี พร้อมกับจับตาสัญญาณเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด การฟื้นตัวของ Nasdaq ทำให้เห็นพลังของกลุ่มเทคโนโลยีต่อทิศทางตลาดโดยรวม ขณะเดียวกันการอ่อนแอของหุ้นกลุ่มอื่นสะท้อนถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่แฝงอยู่ หากเพื่อนๆนักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงในช่วงตลาดผันผวน ควรติดตามข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะประกาศในอนาคตอันใกล้นี้อย่างใกล้ชิด