สรุปตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันอังคารที่ 9 ก.ย. 25: Nasdaq ทุบ 'สถิติสูงสุดใหม่'!! หุ้นเทคฯ คืนชีพ! ลุ้น Fed 'ลดดอกเบี้ย' สัปดาห์หน้า??

Nasdaq ปิดตลาดด้วยสถิติสูงสุดใหม่เมื่อวานนี้ หลังจากที่หุ้นเทคโนโลยีและกลุ่มปัญญาประดิษฐ์เพิ่งถูกเทขายออกในช่วงก่อนหน้านี้ กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อและดัน Nasdaq ขึ้น +0.45% จนทะลุจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ส่วน Dow Jones ก็ปรับขึ้น +0.25% และ S&P 500 เพิ่มขึ้น +0.21% ซึ่งเกือบถึงจุดสูงสุดเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดโดยรวมจะคึกคักในช่วงท้ายของวัน แต่แรงซื้อจะพบมากในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีเท่านั้น ขณะที่กลุ่มอื่นๆ เพิ่งฟื้นตัวในชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย

สำนักวิเคราะห์ Mizuho มองว่า “หุ้นยังคงรักษากำไรช่วงต้นจากความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed และข่าวดีเกี่ยวกับบริษัทที่เตรียมเข้าสู่ดัชนี S&P 500 โดยหุ้นเทคโนโลยียังคงเป็นหัวหอกสำคัญ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มที่ผันผวนสูงขยับขึ้นแรง” นอกจากนี้ หุ้น Software ก็เริ่มฟื้นตัว และกำลังไล่ตามหุ้น Semiconductor กับกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ

ในด้านพันธบัตร มีสัญญาณผ่อนคลายโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ลดลงเหลือ 3.49% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสองปี ส่วนพันธบัตร 10 ปีลดลงเหลือ 4.045% การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่านักลงทุนคาดหวังว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เพื่อตอบสนองต่อเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว

สำหรับสัปดาห์นี้ ตลาดกำลังจับตาข้อมูลแรงงานและเงินเฟ้อ โดยวันอังคารจะมีการปรับตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ระหว่างเมษายน 2024 ถึงมีนาคม 2025 จากสำนักงานสถิติแรงงาน ตามด้วยรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index: PPI) ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) ในวันพฤหัสบดี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีผลต่อการตัดสินใจของ Fed เรื่องดอกเบี้ยในรอบถัดไป

ด้าน Morgan Stanley ให้ความเห็นว่า หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานสัปดาห์ก่อนออกมาอ่อนแอ โอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้ามีสูงขึ้น เว้นแต่ข้อมูลเงินเฟ้อที่ประกาศในสัปดาห์นี้จะสูงผิดคาดอย่างมากแบบเซอร์ไพรส์

ประเด็นสำคัญคือ “ความโดดเด่นของหุ้นเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนตลาด และความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยจาก Fed ที่เริ่มชัดเจนขึ้น สะท้อนว่าสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความผันผวนสูง ขณะที่ข้อมูลสำคัญเรื่องแรงงานกับเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ จะเป็นตัวชี้ชะตาและทิศทางตลาดในระยะสั้นอย่างแท้จริง”