หุ้น Enphase ดิ่ง -11% ทําจุดต่ําสุดในรอบปี!! Q1/25 ผลงานต่ํากว่าคาด?!!

Enphase Energy ประกาศผลประกอบการ Q1/2025 ออกมาแล้ว ต้องบอกเลยว่า เป็นไตรมาสที่นักลงทุน “ผิดหวัง” พอสมควร เพราะตัวเลขทั้งรายได้และ EPS ดันออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อย โดยรายได้ Q1 อยู่ที่ $356.1 ล้าน ต่ำกว่าคาดนิดเดียว ส่วน EPS ก็อยู่ที่ $0.68 จากที่คาดไว้ที่ $0.70 และกำไรสุทธิแบบ Non-GAAP อยู่ที่ $89.2 ล้าน พอประกาศตัวเลขปุ๊บ หุ้นก็ร่วงหนักทันทีกว่า -11.10% ในการซื้อขายนอกเวลา โดยลงไปแตะจุดต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์เลยทีเดียว

ข้อดีที่เห็นจากงบนี้ คือ 

  • Enphase ยังโชว์ว่า บริษัทมีการเติบโต YoY ถึง 35% (เทียบกับ Q1 ปีที่แล้ว) ส่งมอบ microinverter ได้ 1.53 ล้านตัว และแบตเตอรี่ 170.1 MWh

  • บริษัทมี free cash flow $33.8 ล้าน และยังถือเงินสดในมือมากถึง $1.53 พันล้าน และยังซื้อหุ้นคืนกับจ่ายหนี้อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงฐานะการเงินแข็งแกร่ง

  • Enphase ยังเดินหน้าลุยเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่อย่าง IQ9 microinverter กับแบตเตอรี่เจนใหม่ต่อเนื่อง จุดแข็งอีกอย่างคือ อัตรากำไรขั้นต้น ยังสูงถึง 49% (non-GAAP) แม้จะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้ก็ตาม

ส่วนประเด็นที่นักลงทุนกังวลและเป็นเหตุให้เทขายหุ้น คือ 

1) ตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดทั้งรายได้และ EPS แม้จะเป็นเพียงแค่เล็กน้อย แต่นี่คือบริษัทที่ตลาดคาดหวังไว้สูงมาก โดยรายได้ในสหรัฐลดลงถึง -13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว เพราะช่วงนี้ยอดขายตกตามฤดูกาล แถมความต้องการของลูกค้าก็ยังซบเซา แม้ว่าจะมีรายได้พิเศษจาก Safe Harbor มาช่วยพยุงบ้างก็ตาม

2) บริษัทให้แนวโน้มไตรมาส 2/2025 รายได้แค่ $340-380 ล้าน ซึ่งจุดกึ่งกลางต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ที่ $377.7 ล้าน แปลว่าโอกาสโตแรงๆในช่วงสั้นๆ อาจจะยังไม่มา

3) อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มลดลงอีก เพราะโดนผลกระทบจากภาษีนำเข้า (tariff) แบตเตอรี่จากจีน ซึ่งจะทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงไปอีกประมาณ 6-8% ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2025 เป็นต้นไป กว่าบริษัทจะหาทางแก้ไขได้ก็คาดว่าต้องรอถึง Q2/2026

นอกจากนี้ ตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลักของ Enphase ยังเจอปัญหาอัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้ความต้องการติดตั้งโซลาร์ซบเซา ขณะที่ยุโรปก็ยังมีความไม่แน่นอนจากกฎระเบียบและฤดูกาล แม้จะมีสัญญาณบวกจากยอดขายแบตเตอรี่ในยุโรปที่โตขึ้นก็ตาม

Enphase ยังเป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง มีนวัตกรรมและฐานะการเงินดี แต่รอบนี้เจอปัญหาหลายอย่างพร้อมกัน ทั้งยอดขายในสหรัฐฯตก กำไรขั้นต้นลดลงเพราะต้นทุนสูงขึ้น (โดยเฉพาะผลกระทบจากภาษีใหม่) และคาดการณ์แนวโน้มที่ไม่สดใส โดยบริษัทเองก็เตือนว่าไตรมาสต่อไปอาจยังไม่ดีขึ้นมากเท่าไหร่

นักลงทุนเลยกังวลว่า กำไรกับรายได้อาจจะยังไม่ฟื้นในเร็วๆนี้ บวกกับตลาดหุ้นช่วงนี้ที่ผันผวน คนเลยเลือกขายหุ้นออกมาก่อนเพื่อลดความเสี่ยง รอให้เห็นสัญญาณฟื้นตัวหรือความชัดเจนมากกว่านี้ค่อยกลับเข้ามาลงทุนใหม่

เพื่อนๆนักลงทุนอาจต้องจับตาดูว่าบริษัทจะพลิกเกมด้วยการควบคุมต้นทุนและการเปิดตัวสินค้าใหม่ได้มากน้อยแค่ไหน? เพราะถ้าทำได้ดีจริง ไม่แน่ว่าอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยดันธุรกิจให้กลับมาเติบโตและสร้างความมั่นใจให้กับตลาดได้อีกครั้ง แต่ถ้ายังแก้เกมไม่ขาดหรือสินค้าใหม่ยังไม่ตอบโจทย์ ก็อาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานขึ้น นี่แหละคือหัวใจสำคัญของการกลับมาของ Enphase ในรอบนี้