- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- Google งานเข้าไม่หยุด!! ส่อแพ้คดี "ผูกขาด Android" อาจต้องจ่ายค่าปรับมหาศาล!!
Google งานเข้าไม่หยุด!! ส่อแพ้คดี "ผูกขาด Android" อาจต้องจ่ายค่าปรับมหาศาล!!
Google เจอข่าวใหญ่ในยุโรปอีกแล้ว รอบนี้เป็นเรื่องคดีความเก่าที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2018 ที่ EU สั่งปรับ Google หนักถึง 4.34 พันล้านยูโร (ประมาณ $5 พันล้าน) เพราะมองว่า Google ใช้ความได้เปรียบของระบบปฏิบัติการ Android กีดกันคู่แข่ง โดยบังคับให้ผู้ผลิตมือถือที่อยากใช้ Google Play Store ต้องติดตั้ง Google Search กับ Chrome มาด้วย แถมยังมีกติกาไม่ให้เอา Android เวอร์ชันที่ Google ไม่อนุมัติไปขายอีกต่างหาก
Google พยายามสู้คดีมาตลอด ล่าสุดปี 2022 ศาลชั้นต้นก็ยังตัดสินยืนตาม EU แต่ลดค่าปรับลงเหลือ 4.125 พันล้านยูโร ด้าน Google ก็เลยยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดของ EU รอบนี้มีข่าวออกมาว่า Advocate General (ที่ปรึกษาศาลสูงสุด) ชื่อ Juliane Kokott ออกความเห็นแบบไม่ผูกมัดว่า Google ควรแพ้คดีนี้ และศาลควรยืนตามคำตัดสินเดิมพร้อมค่าปรับที่ลดแล้ว
Advocate General บอกตรงๆว่า เหตุผลทางกฎหมายที่ Google ยกมาไม่แข็งแรงพอ โดยเฉพาะประเด็นที่ Google บอกว่าควรเทียบกับคู่แข่งที่มีประสิทธิภาพเท่ากัน ซึ่งศาลมองว่า ในความเป็นจริง Google ครองตลาด Android ชัดเจน มี network effect สูง ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ใช้ Search ของ Google อยู่แล้ว เพราะมันถูกติดตั้งมาจากโรงงาน
แม้ความเห็นนี้จะไม่ผูกมัดศาล แต่สถิติแล้ว ศาลสูงสุดของ EU ก็มักจะตัดสินตาม Advocate General ถึง 80% ดังนั้นโอกาสที่ Google จะแพ้คดีนี้และต้องจ่ายค่าปรับก็สูงทีเดียว
Google เองก็ออกมาแสดงความผิดหวัง บอกว่าถ้าศาลตัดสินตามนี้จะทำให้การลงทุนในแพลตฟอร์มเปิดลดลง และอาจกระทบต่อผู้ใช้ พาร์ทเนอร์ และนักพัฒนาแอปใน ecosystem ของ Android แต่ฝั่งผู้บริโภคและ EU มองว่า การตัดสินแบบนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้คู่แข่งรายเล็กเข้ามาแข่งขันได้มากขึ้น ผู้ใช้ก็มีตัวเลือกมากขึ้น ไม่ต้องติดอยู่กับของเดิมที่ติดมากับเครื่อง
ข่าวนี้สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทเทคฯยักษ์ใหญ่อย่าง Google ยังต้องเจอแรงกดดันจากกฎระเบียบและค่าปรับมหาศาลในยุโรปอยู่เรื่อยๆ ซึ่งอาจกระทบกำไรระยะสั้นและทำให้ต้องปรับโมเดลธุรกิจในบางตลาด แต่ในระยะยาว Google ยังมีฐานผู้ใช้มหาศาลและรายได้จากหลายช่องทาง ถ้าบริหารความเสี่ยงด้านกฎระเบียบดีๆ ก็ยังเป็นหุ้นเทคฯที่มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง เพียงแต่ต้องจับตาท่าทีของ EU และการปรับตัวของ Google อย่างใกล้ชิด เพราะโลกยุคนี้กฎเกมเปลี่ยนเร็วและ Big Tech ก็ไม่ได้อยู่เหนือกฎหมายอีกต่อไป