- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- ทําไมผมถึงไม่ลงทุนในหุ้น HOOD, SOFI หรือ COIN??
ทําไมผมถึงไม่ลงทุนในหุ้น HOOD, SOFI หรือ COIN??
ผมขอเล่าให้ฟังแบบนี้ ช่วงนึง Fintech ดูเหมือนจะเป็นอนาคตของโลกการเงินจริงๆ ทุกอย่างดูง่าย ไม่มีสาขา ไม่มีความยุ่งยาก มีแต่แอปฯ ที่ใช้ง่ายและบริการที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ทุกอย่างดูจะไปได้สวย หุ้นก็เติบโตและมูลค่าพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คนแห่กันซื้อเพราะเชื่อว่า Fintech จะมาแทนธนาคารแบบดั้งเดิม แต่สุดท้ายสิ่งที่หลายคนมองข้าม คือ บริษัทเหล่านี้ไม่ได้ “เป็นเจ้าของ” โครงสร้างพื้นฐานจริงๆ ส่วนใหญ่แค่เช่าเทคโนโลยีหรือระบบของคนอื่นมาใช้ พอถึงยุคที่เงินทุนหายาก ดอกเบี้ยสูง ความแตกต่างระหว่าง “เช่า” กับ “เป็นเจ้าของ” นั้นชัดเจนมาก
อย่าง SoFi ที่ตอนแรกดูดีมาก มีทุกอย่างในแอปฯเดียว ทั้งกู้เงิน ลงทุน ประกัน แต่พอเจาะลึกจริงๆ โมเดลธุรกิจของ SoFi ก็เหมือนธนาคารแบบดั้งเดิม ที่ต้องพึ่งดอกเบี้ยเป็นหลัก ค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าก็สูง ลูกค้าก็เปลี่ยนใจง่าย รายได้หลัก 80% มาจากดอกเบี้ย ไม่ใช่ธุรกิจเทคโนโลยีแบบที่ SoFi อยากให้ตลาดเชื่อ สุดท้ายก็ต้องกลับไปแข่งเรื่องต้นทุนเงินฝากเหมือนธนาคารทั่วไป
ส่วน Coinbase ก็อีกแบบนึง ซึ่งเติบโตในช่วงตลาดคริปโตมาแรง Coinbase ทำตัวเป็นเหมือนด่านเก็บค่าผ่านทางสำหรับนักลงทุนรายย่อยในอเมริกา รายได้พุ่งเพราะคนแห่กันเทรด แต่ตอนนี้ความได้เปรียบนั้นเริ่มหายไป คู่แข่งต่างประเทศให้บริการเร็วกว่าและค่าธรรมเนียมถูกกว่า กฎเกณฑ์ในอเมริกาก็เข้มขึ้น ลูกค้าสถาบันก็ยังไม่เข้ามาเติมเต็มตลาดพอ สุดท้ายรายได้ก็ยังผูกกับกระแสคริปโตมากกว่าความสำเร็จของตัวเอง ถ้าตลาดนิ่ง หุ้นก็นิ่งตาม ดังนั้น Coinbase ในตอนนี้จึงเป็นเหมือนสินทรัพย์ที่อิงกับความผันผวนมากกว่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่มั่นคง
ในทางกลับกัน Robinhood กลับมีความแตกต่าง เพราะบริษัททำทุกอย่างเอง และ "เป็นเจ้าของ" โครงสร้างพื้นฐานของตัวเองเกือบทั้งหมด ตั้งแต่ระบบเคลียร์ริ่ง เก็บเงินลูกค้า ไปจนถึงเทรดคริปโต ออปชั่น ทุกอย่างสร้างเองหมด ไม่ต้องพึ่งใคร ลูกค้าก็ไม่ได้แค่เข้ามาซื้อขายแล้วจากไป แต่กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน เหมือนเป็นแอปฯที่คนต้องเข้ามาเช็คตลอด นี่แหละคือจุดแข็งที่แตกต่างจาก Fintech เจ้าอื่นๆ
ดังนั้น ผมจึงไม่ได้มองว่าหุ้น Fintech จะดีไปทั้งหมด ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อในแนวคิดนี้ แต่เพราะบริษัท Fintech ส่วนใหญ่ที่เคยดูเหมือนจะปฏิวัติวงการการเงิน จริงๆแล้ว แค่สร้างหน้าตาใหม่บนระบบของคนอื่น และเมื่อเงินทุนเริ่มหายาก ต้นทุนสูง และดอกเบี้ยไม่ใช่ศูนย์อีกต่อไป ความเปราะบางก็เห็นชัดเจนขึ้นทันที ความจริงก็คือ นี่ไม่ใช่การปฏิวัติซอฟต์แวร์ แต่เป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้ผลในยุคที่เงินหาง่ายและต้นทุนการหาลูกค้ายังถูก แต่ยุคนั้นได้จบไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือ ต้นทุนที่สูงขึ้นและกำไรที่ลดลง
ตอนนี้เกมของวงการ Fintech ไม่ใช่แค่ว่า บริษัทไหนจะโตเร็วที่สุด แต่เป็นใครจะ "อยู่รอด" ได้หลังจากการปรับฐานครั้งใหญ่นี้ และการอยู่รอดไม่ได้มาจากการออกบัตรเครดิตหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่มาจากการ "เป็นเจ้าของ" โครงสร้างพื้นฐาน, ข้อมูล และที่สำคัญที่สุดคือ เป็นเจ้าของพฤติกรรมของผู้ใช้งาน สร้างบริการที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าขาดไม่ได้ ในโลกที่ใครๆ ก็เข้าถึงบริการทางการเงินได้
สิ่งเดียวที่สำคัญคือ ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของวงจรพฤติกรรมของผู้ใช้ ซึ่ง Robinhood ทำได้สำเร็จ ในขณะที่เจ้าอื่นๆ ยังคงพยายามหาทางอยู่ และนั่นคือเหตุผลที่ผมยังคงเฝ้ารอ และจับตาดู Robinhood อยู่ในพอร์ตหุ้นเติบโตของผมต่อไป