- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- IONQ: เงินสดล้นมือ แต่ทําไมมีข่าว 'ควบรวมกิจการ'??
IONQ: เงินสดล้นมือ แต่ทําไมมีข่าว 'ควบรวมกิจการ'??
มีคำถามน่าสนใจถามผมมาว่า ถ้า IONQ มองว่าตัวเองจะยิ่งใหญ่เหมือน NVIDIA ในวงการควอนตัมคอมพิวเตอร์ แล้วทำไมถึงมีท่าทีอยากให้บริษัทอื่นมาซื้อกิจการ? แปลว่าบริษัทกำลังเงินหมดหรือเปล่า หรือว่าต้องการดึงคนเก่งๆ จากบริษัทอื่นมาร่วมทีม?
ถ้ามองผิวเผิน ก็ดูขัดๆกันอยู่ แต่ผมมองว่าเรื่องนี้มันซับซ้อนกว่านั้น Niccolo de Masi ผู้บริหารของ IONQ ไม่ใช่นักก่อตั้งบริษัทธรรมดาทั่วไป แต่เป็นนักวางกลยุทธ์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการเจรจาธุรกิจมาก่อน ดังนั้นเวลาที่ de Masi พูดเหมือนเปิดโอกาสให้มีทางเลือกหลายทาง มันอาจจะไม่ใช่สัญญาณว่าบริษัทกำลังหมดหนทาง แต่เป็นการวางตำแหน่งตัวเองอย่างชาญฉลาดมากกว่า โดยเฉพาะในตลาดที่การระดมทุนมีต้นทุนที่สูงมาก และภาพลักษณ์มีผลอย่างมากต่อมูลค่าบริษัท
ที่สำคัญคือ IONQ ไม่ได้ขาดเงินสด บริษัทมีเงินในมือกว่า $600 ล้าน และมีค่าใช้จ่ายต่อปีประมาณ $120 ล้าน ซึ่งหมายความว่าบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนพอสำหรับการดำเนินงานได้อีก 5 ปีกว่าๆ โดยไม่มีหนี้สิน นี่ไม่ใช่บริษัทที่กำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด แต่เป็นบริษัทที่กำลังซื้อเวลาเพื่อรอให้ความต้องการเทคโนโลยีควอนตัมเติบโตขึ้นในวงกว้างต่างหาก
แล้วมีบริษัทไหนสนใจจะเข้ามาซื้อ IONQ บ้าง?
ถ้ามองในแง่ความมั่นคงของชาติ บริษัทอย่าง PLTR ก็ดูสมเหตุสมผล แต่ถ้ามองในระยะยาวจริงๆ บริษัทอย่าง GOOGL และ NVDA น่าจะเป็นคู่ที่เหมาะสมกว่า
Google กำลังสร้างระบบ AI แบบครบวงจร ตั้งแต่ข้อมูลไปจนถึงชิปประมวลผล (TPUs) ของตัวเอง โดยมีควอนตัมเป็นไพ่ใบสำคัญสำหรับอนาคตผ่านโครงการ Sycamore โดยสถาปัตยกรรมแบบ trapped-ion ของ IONQ อาจจะเป็นส่วนเสริมที่เข้ามาช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์แบบผสมผสานทำงานได้ดีขึ้น โดยเอาความสามารถของควอนตัมไปช่วยประมวลผลงานบางอย่างบนคลาวด์ที่คอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ ทำได้ไม่ดีพอ ซึ่งนี่เป็นทิศทางที่ Google กำลังผลักดันอยู่แล้วด้วยโมเดลการประมวลผลร่วมกันระหว่าง AI กับควอนตัม
ส่วน NVDA ไม่ได้เป็นแค่บริษัทผลิตชิป แต่เป็นผู้สร้างระบบนิเวศทั้งหมด ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ CUDA ที่ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของซิลิคอน แต่เป็นการสร้างมาตรฐานขึ้นมา และ IONQ ก็กำลังพยายามทำแบบเดียวกันในโลกของควอนตัม คือ มีทั้งฮาร์ดแวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ซอฟต์แวร์แบบครบวงจร และระบบคลาวด์ควอนตัมที่เข้าถึงได้ผ่าน API ถ้าในอนาคตควอนตัมกลายเป็นส่วนสำคัญในการประมวลผลของโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยเฉพาะในระบบ edge หรือสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัยสูง NVDA ก็คงอยากจะเป็นเจ้าของเทคโนโลยีนี้ทั้งหมด มากกว่าที่จะเป็นแค่พันธมิตร ซึ่งก็เคยส่งสัญญาณเรื่องนี้มาบ้างแล้ว ผ่านการจำลองการทำงานร่วมกันระหว่าง GPU กับ QPU (หน่วยประมวลผลควอนตัม)
ถ้าอนาคตมุ่งไปในทิศทางนั้นจริงๆคือ เศรษฐกิจที่ถูกออกแบบใหม่ด้วยระบบดิจิทัล โดยที่ควอนตัมไม่ได้มาแทนที่คอมพิวเตอร์แบบเดิม แต่เป็นอีกมิติหนึ่งที่เสริมเข้ามา IONQ ก็จะกลายเป็นเหมือนโหนดสำคัญในอินเทอร์เน็ตยุคหน้า ที่ถูกฝังอยู่ในระบบสื่อสารที่ปลอดภัย การจำลองสภาพอากาศ การค้นคว้ายา ไปจนถึงระบบป้องกันประเทศ โดยไม่ได้มาแทนที่คลาวด์คอมพิวติ้ง แต่มาเสริมให้มันดีขึ้น และใครก็ตามที่เป็นเจ้าของสถาปัตยกรรมโหนดนี้ ก็เหมือนกับเป็นเจ้าของเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งต่อไป
ดังนั้น การที่ IONQ พูดเป็นนัยๆ เรื่องการถูกซื้อกิจการ จึงไม่ใช่สัญญาณของความอ่อนแอ แต่เป็นการแสดงความแข็งแกร่งและยืดหยุ่น เพื่อให้ตลาดรู้ว่า IONQ ไม่ว่าจะสร้างบริษัทให้เติบโตด้วยตัวเอง หรือเข้าไปรวมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ มูลค่าของบริษัทก็อยู่ที่ตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้ IONQ กำลังเล่นเกมยาวจากจุดที่ได้เปรียบ ไม่ใช่เสียเปรียบ