• ลงทุนหุ้นอเมริกา
  • Posts
  • ทําไม IonQ หุ้นควอนตัม พุ่งแรง +47% ในพฤษภาคม?? อะไรจุดชนวนให้วิ่งแรงจนต้องหันมามอง?

ทําไม IonQ หุ้นควอนตัม พุ่งแรง +47% ในพฤษภาคม?? อะไรจุดชนวนให้วิ่งแรงจนต้องหันมามอง?

IonQ หุ้นควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งเป็นกระแสแรงในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นพุ่งขึ้นถึง +47% ในเดือนเดียว สาเหตุหลักมาจาก CEO ของบริษัทออกมาให้สัมภาษณ์กับ Barron’s แล้วเปรียบเทียบ IonQ ว่ากำลังจะเป็น “Nvidia แห่งวงการควอนตัมคอมพิวเตอร์” ซึ่งคำพูดนี้จุดกระแสความคาดหวังในหมู่นักลงทุนทันที เพราะ Nvidia คือหุ้น AI ที่ราคาพุ่งแรงที่สุดในโลกช่วง 2-3 ปีหลัง ใครได้ยินแบบนี้ก็อดจินตนาการถึงโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดไม่ได้

นอกจากกระแสข่าวแล้ว IonQ ยังมีปัจจัยบวกจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ที่แม้รายได้จะอยู่แค่ $7.6 ล้าน ซึ่งถือว่าโตน้อยมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้วและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด แต่ขาดทุนสุทธิก็ลดลงเหลือ $32.3 ล้าน ซึ่งแปลว่าบริษัทเริ่มควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น

ที่สำคัญคือบริษัทยังมีเงินสดในมือเกือบ $700 ล้านจากการเพิ่มทุน ทำให้ยังมีเวลาอีกพอสมควรสำหรับการลงทุนและขยายกิจการ

อีกประเด็นที่ช่วยหนุนราคาคือ IonQ เดินเกมซื้อกิจการต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่งปิดดีล Lightsynq Technologies ที่เชี่ยวชาญเรื่อง quantum memory ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญสำหรับการขยายระบบควอนตัมในอนาคต นอกจากนี้ยังมี MOU กับ KISTI ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของเกาหลีใต้ เพื่อร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมและเครือข่ายระดับโลก

แต่ถ้ามองลึกๆ หุ้น IonQ ตอนนี้ถือว่า “แพงมาก” ด้วยค่า Price-to-Sales (P/S) ทะลุ 100 เท่า (บางแหล่งคำนวณได้ถึง 200 เท่า) ในขณะที่คู่แข่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีส่วนใหญ่ P/S ไม่เกิน 10 เท่า และบริษัทก็ยังขาดทุนต่อเนื่องแบบยังไม่มีแววกำไรในเร็ววัน รายได้ไตรมาส 1 ยังแทบไม่โตเมื่อเทียบกับปีก่อน แถมต้องเผชิญการแข่งขันจากยักษ์ใหญ่ทั้ง IBM, Google, Microsoft, Amazon และบริษัทหน้าใหม่ที่วิ่งเข้ามาในสนามควอนตัมคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง

หุ้น IonQ ตอนนี้เหมือนโดนปั่นกระแสจากความหวังและจินตนาการมากกว่าปัจจัยพื้นฐานจริง นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าอนาคตของควอนตัมคอมพิวเตอร์จะยิ่งใหญ่เหมือน AI วันนี้ แต่เส้นทางยังอีกไกลและเสี่ยงสูงมาก ถ้าเทียบกับราคาหุ้นที่ขึ้นมาแรงขนาดนี้ โอกาส “ย่อแรง” ก็ยังมีสูงพอๆ กับโอกาสโตแบบก้าวกระโดด

IonQ คือหุ้นที่เหมาะกับคนรับความเสี่ยงได้สูงมากเท่านั้น ถ้าจะซื้อควรจำกัดสัดส่วนเล็กๆของพอร์ต จนกว่าบริษัทจะเริ่มแสดงให้เห็นรายได้และกำไรที่เติบโตจริงจัง เพราะตอนนี้ราคาสะท้อนความหวังล้วนๆ ถ้าข่าวหรือกระแสเริ่มซา มีโอกาสปรับฐานแรงได้ทุกเมื่อ