JPMorgan 'ลดเกรด' Netflix!! หลังหุ้นทํานิวไฮ!! ส่งสัญญาณ "ไม่คุ้มเสี่ยง" เท่าเดิม?

ล่าสุด JPMorgan ได้ออกมาปรับลดมุมมองการลงทุนในหุ้น Netflix จากเดิมที่เคยเชียร์ให้ "ซื้อ" (Overweight) ลงมาเหลือแค่ "เป็นกลาง" (Neutral) แล้ว

เหตุผลหลักๆก็คือ หุ้น Netflix ราคาวิ่งขึ้นมาเยอะมากๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปี 2022 จนถึงตอนนี้ ราคาหุ้นบวกไปเกือบ 400% แล้ว! เรียกว่าแซงหน้าตลาดไปไกลเลยทีเดียว ตอนนี้ราคาหุ้นก็ซื้อขายกันอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วยซ้ำ

JPMorgan ก็เลยมองว่า ด้วยราคาปัจจุบัน ได้สะท้อนปัจจัยบวกต่างๆ รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการที่ดีในปี 2025 ไปพอสมควรแล้ว ถ้าดูจากตัวเลขคาดการณ์กำไรต่อหุ้น ในปี 2026 หุ้น Netflix ก็ซื้อขายกันที่ P/E ประมาณ 39 เท่า หรือถ้าดูจากกระแสเงินสดอิสระ (FCF) ก็อยู่ที่ 44 เท่า ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง ทำให้ความน่าสนใจในแง่ของผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยง มันลดน้อยลงไปจากเดิมนั่นเอง ทาง JPMorgan ถึงกับถอด Netflix ออกจากลิสต์หุ้นแนะนำของบริษัทที่เรียกว่า "U.S. Equity Analyst Focus List" อีกด้วย

แต่ไม่ใช่ว่า JPMorgan มองว่า Netflix ไม่ดีแล้ว! JPMorgan ยังคงเชื่อมั่นในระยะยาวว่า Netflix ยังเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดสตรีมมิ่งอยู่ แถมยังใจดีปรับราคาเป้าหมายของเดือนธันวาคมปี 2025 ขึ้นให้อีกนิดหน่อยด้วยซ้ำ จากเดิม $1,150 เป็น $1,220 

ด้านนักวิเคราะห์ของ JPMorgan ชี้ว่า พื้นฐานของ Netflix ยังแข็งแกร่งมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของรายได้ที่คาดว่าจะยังเป็นเลขสองหลัก (ถ้าไม่นับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน) ไปจนถึงปี 2026 เลยทีเดียว แถมอัตรากำไรก็มีแนวโน้มดีขึ้น กระแสเงินสดอิสระก็จะเพิ่มขึ้น และบริษัทก็น่าจะมีการซื้อหุ้นคืนมากขึ้นด้วย ส่วนธุรกิจโฆษณาที่หลายคนจับตามอง ตอนนี้ก็ไปได้สวยเลย โดย Netflix คาดว่ารายได้จากส่วนโฆษณาจะเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2025

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ที่ผ่านมาหุ้น Netflix เหมือนเป็นหุ้นหลบภัยในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอนเรื่องเศรษฐกิจหรือเรื่องกำแพงภาษีต่างๆ แต่ถ้าสถานการณ์โดยรวมดีขึ้น ความกังวลเหล่านี้ลดน้อยลง เงินทุนก็อาจจะถูกหมุนเข้าไปอยู่หุ้นกลุ่มอินเทอร์เน็ตตัวอื่นๆ หรือหุ้นในส่วนอื่นของตลาดที่ก่อนหน้านี้อาจจะโดนกดดันมามากกว่า

สำหรับความเสี่ยงในระยะสั้นๆของ Netflix ก็อาจจะมีเรื่องของยอดผู้ใช้งานที่อาจจะแผ่วลงบ้างตามฤดูกาลในช่วงหน้าร้อน หรืออาจจะยังไม่มีปัจจัยกระตุ้นใหม่ๆ เข้ามาหลังจากที่เพิ่งจัดงาน Upfront (งานเปิดตัวคอนเทนต์ใหม่ๆ) ไป ถึงแม้ว่าคอนเทนต์ที่จ่อคิวฉายจะยังน่าสนใจก็ตาม