- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- หุ้น "LLY" พุ่งแรง +14%!! จ่อขึ้นแท่นผู้นํา "ยาเม็ดลดอ้วน"!!
หุ้น "LLY" พุ่งแรง +14%!! จ่อขึ้นแท่นผู้นํา "ยาเม็ดลดอ้วน"!!
ทำไมราคาหุ้น Eli Lilly ถึงพุ่งแรงถึง +14.30% ในวันพฤหัสที่ผ่านมา ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Novo Nordisk กลับร่วงลงแรง
สาเหตุเริ่มจาก Eli Lilly ประกาศผลทดลองเฟส 3 ของยาลดน้ำหนักตัวใหม่ชื่อ orforglipron ซึ่งเป็นยากลุ่ม GLP-1 แบบเม็ด ไม่ต้องฉีด! ผลออกมาดีมาก คนที่กินยานี้น้ำหนักลดเฉลี่ย 7.9% ใน 40 สัปดาห์ แถมยังลดน้ำตาลในเลือด (A1C) ได้ 1.3-1.6% ที่สำคัญคือ ผลข้างเคียงไม่ได้รุนแรงไปกว่ายาฉีดในกลุ่มเดียวกันเลย คนไข้ยังไม่ถึงจุดที่น้ำหนักนิ่งด้วยซ้ำ หมายความว่าถ้ากินต่ออีก น้ำหนักอาจลดได้มากกว่านี้อีก
ข่าวนี้ทำให้หุ้น Eli Lilly พุ่งขึ้นทันที เพราะตลาดมองว่านี่คือ หมัดเด็ดที่จะทำให้ Lilly เป็นเจ้าแรกที่มี “ยาเม็ดลดน้ำหนัก GLP-1” ที่ใช้ได้จริงในโลกนี้ ซึ่งความสะดวกของยาเม็ด (ไม่ต้องฉีด) จะขยายตลาดได้มหาศาล เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ชอบฉีดยาอยู่แล้ว
ฝั่งคู่แข่งอย่าง Novo Nordisk ที่ตอนนี้มีแต่ยาฉีด (Ozempic, Wegovy) ก็เลยโดนกดดันหนัก หุ้นร่วงทันทีเกือบ -7.63% เพราะนักลงทุนกลัวว่าถ้า Eli Lilly ได้ไฟเขียวจาก FDA ก่อน จะกินส่วนแบ่งตลาดไปเยอะมาก ส่วน Viking Therapeutics ที่กำลังพัฒนายาเม็ดเหมือนกัน แต่ยังอยู่ในช่วงทดลองเฟส 2-3 ซึ่งดูเหมือนจะช้ากว่า Lilly หลายก้าว
ที่สำคัญคือ Pfizer ที่เคยจะทำยาเม็ดกลุ่มนี้เหมือนกันก็เพิ่งล้มเลิกไป เพราะเจอปัญหาเรื่องความปลอดภัย ทำให้ตอนนี้ Lilly กลายเป็นม้ามืดที่นำโด่งในสนามแข่งนี้แบบไม่มีคู่แข่งที่ใกล้เคียงเลย
ต้องบอกว่าการที่ Eli Lilly ทำสำเร็จในเฟส 3 นี้คือ “ตัวเปลี่ยนเกม” ของตลาดยาลดน้ำหนัก เพราะตลาดนี้ใหญ่ระดับ $100,000 ล้านเหรียญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การได้เป็นเจ้าแรกที่มี “ยาเม็ด” จะได้เปรียบมหาศาล ทั้งในแง่ส่วนแบ่งตลาด กำไร และโอกาสขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ายังเหลือเฟส 3 อีก 6 การทดลอง และต้องรอการอนุมัติจาก FDA อีกที ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด Eli Lilly ก็น่าจะเป็นผู้นำตลาดนี้แบบไร้คู่แข่งไปอีกพักใหญ่ ส่วน Novo กับ Viking ต้องเร่งเครื่องกันสุดชีวิต ไม่งั้นอาจโดนทิ้งห่างยาวๆ