- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- ในภาวะตลาดผันผวน: ทําไมการ "คัดเลือกหุ้น" ถึงสําคัญ?! 【【 จารย์ เชย์ 】】
ในภาวะตลาดผันผวน: ทําไมการ "คัดเลือกหุ้น" ถึงสําคัญ?! 【【 จารย์ เชย์ 】】
ช่วงนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่าอยากนิ่งๆ รอดูท่าทีตลาด จะรอดูว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีกไหม? หรือรอข่าวเศรษฐกิจรอบใหม่ที่เหมือนจะไม่เคยมาแบบชัดๆสักที แต่จริงๆแล้ว ตอนนี้ตลาดหุ้นกำลังปรับราคาใหม่ ไม่ใช่แค่เรื่องความเสี่ยง แต่เป็นเรื่อง “ทิศทาง” ของหุ้นแต่ละตัวต่างหาก
สภาพตลาดตอนนี้ไม่ได้มีแค่ความผันผวนธรรมดา แต่มันกำลังเปิดโอกาสให้กับหุ้นกลุ่มเติบโตระยะยาว โดยเฉพาะหุ้นเล็กที่ยังไม่ค่อยมีคนสนใจมากนัก บอกตรงๆ ว่าช่วงนี้อยากมีเงินสดเยอะกว่านี้ จะได้เลือกซื้อหุ้นเพิ่มได้แบบจุใจ ตลาดภาพรวมดูเหมือนจะทรงๆ แต่ถ้าดูดีๆ หุ้นแต่ละตัวเคลื่อนไหวแตกต่างกันสุดขั้ว บางตัวราคาลงเหมือนเศรษฐกิจจะจบลงแล้ว แต่บางตัวกลับวิ่งขึ้นเงียบๆ เพราะยังมีพื้นฐานดี แม้ว่าสถานการณ์โลกจะเปลี่ยนแปลง นี่แหละที่ทำให้พอร์ตปี 2025 ของผมมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยกว่าปกติ ไม่ใช่เพราะอยากไล่ราคาหุ้น แต่เพราะเศรษฐกิจบีบให้ต้องตัดสินใจแบบเฉียบคมมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น หุ้น FROG เดิมทีผมอยากย้ายไปไว้ในพอร์ตเติบโต เพราะคิดว่าน่าจะเข้าเทรนด์ AI ได้แล้ว แต่พอเช็คข้อมูลล่าสุด หุ้นนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น แม้พื้นฐานบริษัทจะแข็งแรง แต่แผนธุรกิจยังไม่สอดคล้องกับทิศทาง AI จริงๆ ด้วยมูลค่าตลาดประมาณ $3 พันล้าน เลยเหมาะอยู่ในกลุ่มหุ้นเล็กมากกว่า ให้หุ้นนี้ได้เติบโตแบบไม่ต้องแบกรับความคาดหวังสูง ขณะเดียวกัน การโยกเงินไปลงทุนในกลุ่มเครื่องมือแพทย์กับไบโอเทคช่วงหลังถือว่าได้ผลดี แม้จะไม่ได้หวังเก็งกำไรระยะสั้น แต่เพราะตลาดยังเข้าใจผิดว่าหุ้นกลุ่มนี้โดนผลกระทบจากดอกเบี้ยสูงเหมือนกันหมด ทั้งที่จริงๆแล้วบางบริษัทสามารถแก้ปัญหาได้จริง ไม่ว่าจะดอกเบี้ย 5% หรือเท่าไหร่ก็ตาม
ฝั่งซอฟต์แวร์ก็เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นว่ากลุ่มไหนจะอยู่รอด? กลุ่มไหนจะโดนกระทบ? ไม่ใช่ดูแค่ขนาดตลาดแล้วจบ แต่ต้องดูด้วยว่าธุรกิจไหนป้องกันผลกระทบจากกระแสเศรษฐกิจได้ดี และเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงบประมาณองค์กร นี่คือสาเหตุที่ทำให้วันนี้ผมเริ่มต้นลงทุนในหุ้น S เพราะเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล การรวมระบบต่างๆให้ทำงานด้วยกัน และการใช้ AI มาช่วยจับภัยคุกคาม เป็นสิ่งที่ทุกบริษัทต้องให้ความสำคัญและขาดไม่ได้ในยุคนี้
ส่วน FROG ผมก็จะกลับมาลงทุนใหม่ แต่ยังไม่ใส่ในพอร์ตเติบโต เพราะเส้นทางขยายธุรกิจยังต้องพิสูจน์อีกเยอะ ผมต้องรอให้แน่ใจก่อน เพราะตลาดรอบนี้ไม่ใช่ยุคที่ใครกระจายการลงทุนกว้างๆแล้วจะรอด แต่ต้องเลือกให้แม่นยำมากขึ้น ถึงจะมีเงินสดน้อยก็ไม่ถอย เพราะเกมตอนนี้ไม่ใช่ใครมองโลกสวยกว่ากัน แต่ใคร “ปรับตัว” ได้แม่นยำกว่ากัน รอบหน้าที่ตลาดจะขึ้นแรง ไม่ใช่มาจากเศรษฐกิจผ่อนคลาย แต่มาจากการเลือกหุ้นที่ใช่จริงๆ และต้องเข้าใจหุ้นตัวที่เลือกจริงๆ หรือต้องรู้ว่าหุ้นตัวไหนที่ตลาดยังเข้าใจผิดอยู่ โดยเฉพาะหุ้นเล็กๆที่ตอนนี้ โดนตลาดมองข้ามและตีความผิดไปเยอะมาก