ทําไม? หุ้นไซเบอร์พุ่งแรง! เจาะลึก: CrowdStrike, Palo Alto, Fortinet

หุ้นกลุ่มความปลอดภัยไซเบอร์อย่าง CrowdStrike, Palo Alto Networks และ Fortinet พุ่งขึ้นอย่างน่าสนใจในสัปดาห์นี้ สาเหตุหลักๆ มาจาก สหรัฐฯประกาศพักการขึ้นภาษีนำเข้า 90 วัน แถมยังมีบทวิเคราะห์จาก Wedbush ที่มองว่า CrowdStrike กับ Palo Alto เป็น "หุ้นปลอดภัย" ที่น่าลงทุนในยุคที่ภาษีอาจสูงขึ้น

ที่น่าสนใจคือ บริษัทเหล่านี้ยังเติบโตได้ดีมาก ยอดขายเพิ่มขึ้น 14-25% ในไตรมาสล่าสุด จากการสำรวจพบว่า 63% ของบริษัททั่วโลกเพิ่มงบด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แต่มีแค่ 37% ที่คิดว่ามากพอแล้ว ยิ่งในยุค AI ยิ่งทำให้การรักษาความปลอดภัยมีความซับซ้อนขึ้นด้วย

CrowdStrike เป็นผู้นำในการตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ด้วยแพลตฟอร์ม Falcon ที่ทำงานบนระบบคลาวด์และขับเคลื่อนด้วย AI บริษัทมีลูกค้าเป็นบริษัทใหญ่ระดับ Fortune 100 ถึง 70% และผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทในด้านการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ความปลอดภัยบนคลาวด์ และระบบจัดการข้อมูลความปลอดภัยโตสูงถึง 70-140%

ส่วน Palo Alto ผู้นำด้านโซลูชั่นไฟร์วอลล์ ที่เพิ่งปรับโมเดลธุรกิจเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรเมื่อปีที่แล้ว กลยุทธ์นี้เริ่มประสบความสำเร็จ โดยไตรมาสล่าสุดมีการเติบโตของรายได้ 14%, ภาระผูกพันในการให้บริการ (RPO) เพิ่มขึ้น 21% และรายได้ประจำปีจากโซลูชั่นเจเนอเรชั่นใหม่ (NGS ARR) เพิ่มขึ้นถึง 37%

ขณะที่ Fortinet ดูจะแคร์ผู้ถือหุ้นมากที่สุด โดยบริษัทได้ซื้อหุ้นคืน ทำให้จำนวนหุ้นในตลาดลดลง 5% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่คู่แข่งอย่าง CrowdStrike และ Palo Alto กลับปล่อยหุ้นเพิ่มออกมาในตลาด 15% และ 14% ตามลำดับ นอกจากนี้ Fortinet จ่ายค่าตอบแทนพนักงานด้วยหุ้นแค่ 4% ของรายได้ (เทียบกับ CrowdStrike 22% และ Palo Alto 13%) ซึ่งการแจกหุ้นให้พนักงานมากๆ ทำให้มูลค่าหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมลดลง

การลงทุนในกลุ่มหุ้นเติบโตแบบป้องกันความเสี่ยงทั้งสามตัวนี้อาจเป็นทางเลือกที่ดี แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะแข่งขันกันเอง แต่ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กระแสการเติบโตของอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้นเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว