ทําไม WFC พุ่งสวนตลาด +3% เมื่อวานนี้?? เหล่าสํานักพร้อมใจ 'อัพเป้าราคา'!!

เมื่อวานนี้หุ้น Wells Fargo พุ่งขึ้นแรง +3.09% ทั้งที่ตลาดโดยรวมดูเงียบๆ ไม่มีอะไรหวือหวา สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้หุ้นธนาคารยักษ์ใหญ่นี้วิ่งแรงก็เพราะมีข่าวดี 2 เรื่องซ้อนกัน เรื่องแรกคือ ข่าวลือว่าหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ อย่าง Fed, FDIC และ OCC กำลังพิจารณาจะลดเกณฑ์เงินกองทุน (enhanced supplementary leverage ratio หรือ eSLR) สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ลงอีก 1.5% เหลือแค่ 3.5-4.5% ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง Wells Fargo กับธนาคารใหญ่ๆ จะมีเงินทุนเหลือไปลงทุนในพันธบัตรหรือขยายธุรกิจได้มากขึ้น ซึ่งพันธบัตรรัฐบาลก็ถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยสุดๆ ในตลาดอยู่แล้ว

อีกเรื่องที่ช่วยหนุนราคาหุ้นก็คือ นักวิเคราะห์จาก Raymond James ออกมาอัพเป้าหมายราคาหุ้น WFC ขึ้นไปที่ $84 จากเดิม $78 พร้อมกับคงคำแนะนำ “Strong Buy” เหตุผลสำคัญคือ Fed เพิ่งปลดล็อก asset cap ที่เคยจำกัดการเติบโตของ Wells Fargo มาตั้งแต่ปี 2018 หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวเรื่องบัญชีปลอมในปี 2016 พอ asset cap ถูกยกเลิก ธนาคารก็กลับมาขยายสินทรัพย์ได้เต็มที่ ไม่ต้องจำกัดตัวเองเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทำให้มีโอกาสโตในธุรกิจปล่อยกู้ การลงทุน และบริการธนาคารเพื่อการลงทุนมากขึ้น

ต้องบอกว่าตลอด 7 ปีที่ผ่านมา Wells Fargo เหมือนถูกใส่กุญแจมือ แข่งกับคู่แข่งก็ไม่ค่อยได้ ต้องคุมขนาดสินทรัพย์ไม่ให้เกิน $1.95 ล้านล้าน พอปลดล็อกปุ๊บ ธนาคารก็มีอิสระในการขยายกิจการ ทั้งรับฝากเงินใหม่ ปล่อยกู้ และกลับไปเล่นในตลาดที่เคยต้องถอยออกมา ที่สำคัญคือการที่ Fed ยอมปลด asset cap ก็แปลว่าผู้กำกับดูแลเชื่อว่าธนาคารปรับปรุงระบบควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงดีขึ้นจริง

นักวิเคราะห์หลายเจ้าก็เริ่มปรับเป้าหมายราคาหุ้น WFC ขึ้น เช่น J.P. Morgan กับ Morgan Stanley ก็ให้เป้าใหม่แถว $84-90 ส่วน Bank of America ก็ขยับเป้าไป $90 เลยทีเดียว แต่ก็ต้องย้ำว่า Wells Fargo ยังมีคำสั่งกำกับดูแลบางเรื่องที่ต้องแก้ไขต่อไป เช่น ด้านข้อมูลลูกค้าและป้องกันการฟอกเงิน

การปลดล็อก asset cap คือ จุดเปลี่ยนสำคัญที่เปิดทางให้ Wells Fargo กลับมาโตแข่งกับธนาคารใหญ่ๆ ได้อีกครั้ง แต่ความเสี่ยงก็ยังมี ทั้งการแข่งขันในอุตสาหกรรมและการพิสูจน์ว่าธนาคารจะไม่กลับไปพลาดเหมือนอดีต ถ้าบริหารความเสี่ยงดีและใช้โอกาสนี้ขยายธุรกิจอย่างมีวินัย หุ้น WFC ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะกลางถึงยาว แต่ถ้ายังมีปัญหากำกับดูแลหรือเสียความเชื่อมั่นอีก ก็อาจถูกกดดันหนักเหมือนเดิม เพื่อนๆนักลงทุนต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและวินัยการเติบโตของ Wells Fargo อย่างใกล้ชิด