NVDA นําทีม AI ฟีเวอร์!! เปิด '4 หุ้นเทคฯ'!! สํานักวิเคราะห์แห่ 'อัพเป้าราคา'!!

วงการหุ้น AI มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมากๆ เริ่มจาก Nvidia ที่ Barclays ขยับเป้าราคาขึ้นไปที่ $200 จากเดิม $170 เพราะออเดอร์จากลูกค้าและพาร์ทเนอร์ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของ Nvidia ยังเข้ามาเยอะต่อเนื่อง มีโอกาสอัพไซด์ในช่วงครึ่งปีหลัง แม้กำลังผลิต Blackwell จะต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่ยอดขายระบบ กำลังมาแรง คาดว่าจะช่วยดันอัตรากำไรให้ดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้ Barclays ยังอัพประมาณการรายได้ Compute ของ Nvidia ใน Q3-Q4 ขึ้นไปอีกด้วย

Meta เองก็โดน Oppenheimer อัพเป้าราคาเป็น $775 จาก $665 ด้วยเหตุผลว่าตลาดโฆษณาฟื้นตัวเร็วกว่าที่คิด และ Meta กำลังลงทุนหนักในโครงสร้างพื้นฐาน AI แม้ Llama 4 จะยังไม่ว้าว แต่บริษัทก็เดินหน้าซื้อกิจการ Scale AI มูลค่า $1.43 หมื่นล้าน และเพิ่มงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแบบจัดเต็ม ปี 2025-2026 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมกันกว่า $1.53 แสนล้าน รายได้และ EPS ก็ถูกปรับขึ้นตามไปด้วย

ด้าน Citi มองว่ากระแส AI ยังแรงพอจะกลบความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ต่างๆ ได้อยู่ ยังให้น้ำหนักหุ้นสหรัฐฯ มากกว่าภูมิภาคอื่นๆ และเพิ่งอัพเป้า S&P 500 ไปที่ 6,300 จุด (กรณีดีสุดอาจไปถึง 7,000) พร้อมชี้ว่าถ้าราคาน้ำมันขึ้นจนทำให้ตลาดหุ้นผันผวนแรง อาจเป็นจังหวะดีที่นักลงทุนจะได้ซื้อหุ้นเพิ่มในราคาถูกลง

Cisco ก็ถูก Deutsche Bank อัพเกรดเป็น “ซื้อ” เพราะเห็นโมเมนตัมจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI, อัพเกรดระบบเครือข่าย, และรายได้จากการขายซอฟต์แวร์แบบสมัครสมาชิกหรือเก็บเงินรายปีของ Cisco ก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่า EPS จะโตเฉลี่ยปีละ 7-8% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

สุดท้าย Bank of America เลือก Datadog เป็นหุ้นเด่นครึ่งหลังปี 2025 เพราะลูกค้าองค์กรพร้อมจะจ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกับโซลูชั่นที่เกี่ยวกับ AI ตอนนี้ลูกค้า AI-native คิดเป็น 8.5% ของรายได้ recurring แล้ว และบริษัทก็เพิ่งเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ที่แต่ละตัวมีศักยภาพสร้างรายได้ปีละ $100 ล้านขึ้นไป

กระแส AI ยังเป็นธีมหลักที่ขับเคลื่อนตลาดเทคฯในสหรัฐฯ ต่อไปอีกพักใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นที่มีบทบาทในโครงสร้างพื้นฐาน AI หรือเป็นแพลตฟอร์มที่องค์กรต้องใช้จริงจัง อย่าง Nvidia, Cisco, Datadog ส่วน Meta แม้จะมีความเสี่ยงเรื่องการแข่งขันและต้องใช้เงินลงทุนมาก แต่ถ้าทำสำเร็จก็จะได้ประโยชน์จากตลาดโฆษณาและ AI ระยะยาว สุดท้ายอย่าลืมจับตาความผันผวนจากปัจจัยภายนอก เช่น ภูมิรัฐศาสตร์หรือราคาน้ำมัน เพราะอาจกลายเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นดีๆ ได้ในจังหวะที่ตลาดปรับฐาน