เมื่อ NVDA โดดเข้าวงการควอนตัม!! IONQ จะ "รุ่ง" หรือ "ร่วง"?!

NVDA ไม่เคยทำอะไรโดยไม่ตั้งใจ โดย NVDA เพิ่งประกาศเปิดตัว ABCI-Q ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่เร่งความเร็วด้วยควอนตัม สามารถผสมผสานการทำงานทั้งแบบดั้งเดิมและควอนตัมไว้ในระบบเดียวกันได้ 

NVDA ไม่ได้แค่สร้างกระแสข่าว แต่คือการปักหมุดหมายสำคัญซึ่งประกาศว่า อนาคตของ AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การมีกลุ่มประมวลผลที่ใหญ่ขึ้น หรือการ์ดจอ GPUs ที่เร็วขึ้นเท่านั้น แต่คือการเสริมพลังการประมวลผลด้วยการใช้เทคโนโลยีควอนตัมในระดับที่ใช้งานได้จริง ซึ่งอุตสาหกรรมที่ต้องใช้การจำลองสถานการณ์ เช่น การศึกษาพลศาสตร์ระดับโมเลกุล หรือการออกแบบชิปประมวลผลยุคหน้า กำลังจะเจอกับขีดจำกัดของคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ ซึ่ง NVDA ก็มองออกว่า อีกไม่นานหลายอุตสาหกรรมจะต้องเจอกับทางตันนี้

แต่ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า ABCI-Q ที่ว่า ยังไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาวางขายในเชิงพาณิชย์ในเร็ววันนี้ มันเป็นเหมือนการส่งสัญญาณในด้านการวิจัยและพัฒนาในระยะยาวของ NVDA เพื่อบอกให้ทั้งวงการรู้ว่า "พวกเราเข้ามาในสนามแข่งนี้แล้ว" ซึ่งสำคัญมาก NVDA ไม่จำเป็นต้องลงมือสร้างหน่วยประมวลผลควอนตัมด้วยตัวเอง เพราะ กลยุทธ์ของ NVDA คือเน้นการบูรณาการเป็นหลัก บริษัทสร้างแพลตฟอร์ม ไม่ได้สร้างแค่โซลูชันเฉพาะจุด เหมือนอย่างที่ CUDA ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ใช่เพราะยอดเยี่ยมไร้ที่ติ แต่เพราะมันกลายเป็นมาตรฐานกลางให้กับการประมวลผลแบบเร่งความเร็ว ทีนี้ ABCI-Q ก็ตั้งเป้าที่จะเป็นมาตรฐานแบบเดียวกันสำหรับงานที่ผสมผสานระหว่างควอนตัมกับ AI นั่นเอง

แล้วสถานการณ์ของ IonQ จะเป็นยังไง? 

สำหรับ IonQ ต้องบอกว่า ยังคงอยู่ในเกมนี้อย่างเต็มตัวและอาจจะนำหน้าอยู่ด้วยซ้ำ เพราะในขณะที่ NVDA เพิ่งจะเริ่มวางพิมพ์เขียวคร่าวๆ IonQ ก็กำลังสร้างระบบที่พร้อมใช้งานจริงในระดับอุตสาหกรรม และเริ่มนำไปติดตั้งใช้งานแล้ว สถาปัตยกรรมแบบ Trapped Ion ของ IonQ ก็ผ่านขั้นตอนการพิสูจน์แนวคิดเรียบร้อยแล้ว บริษัทก็เข้าตลาดหุ้นแล้ว มีการแสดงผลการทำงานแบบเรียลไทม์ แถมยังมีชุดซอฟต์แวร์ของตัวเองอย่าง Quantum OS และ Forte Enterprise ที่ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์แล้วด้วย และที่สำคัญคือ IonQ เป็นผู้ให้บริการการประมวลผลควอนตัมแบบเน้นๆเพียงรายเดียว ที่ระบบของบริษัทถูกนำไปผนวกเข้ากับระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง AWS, Azure และ Google Cloud เป็นที่เรียบร้อย 

การวางตำแหน่งตัวเองแบบนี้สำคัญมาก เพราะตลาดกำลังวัดกันว่า ใครจะสามารถสร้างความได้เปรียบที่คุ้มค่า และแก้ปัญหาเฉพาะทางในโลกความเป็นจริงได้มากกว่า? ซึ่งแนวทางของ IonQ ที่เน้นความยืดหยุ่น ปรับขนาดได้ และเชื่อมต่อกับคลาวด์ กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมจะเชื่อมต่อกับทุกระบบที่ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่หรือแม้แต่ NVIDIA จะนำเสนอนั่นเอง

แต่จุดที่น่าสนใจจริงๆคือ การเคลื่อนไหวของ NVDA ครั้งนี้ที่อาจจะช่วยขยายตลาดโดยรวมให้กับ IonQ ได้เร็วกว่าที่บริษัทจะทำได้ด้วยตัวเอง เพราะเมื่อ NVDA หันมาให้ความสนใจกับการผนวกเทคโนโลยีควอนตัมเข้ากับ AI เหมือนเป็นการเปลี่ยนสิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นแค่ "โครงการทดลองทางวิทยาศาสตร์" ให้กลายเป็น "เรื่องสำคัญทางธุรกิจ" ขึ้นมาทันที

ด้านผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัทใหญ่ๆ ในกลุ่ม Fortune 500 ที่ปัจจุบันใช้ CUDA ของ NVDA เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ก็ย่อมอยากจะทำความเข้าใจว่างานประมวลผลแบบควอนตัมจะเข้ามาอยู่ในระบบของตัวเองได้อย่างไร และในตอนนี้ บริษัทเหล่านี้ไม่สามารถซื้อเทคโนโลยีนั้นจาก NVDA ได้โดยตรง แต่สามารถซื้อได้จาก IonQ ดังนั้น นี่ไม่ใช่ว่า NVDA จะมาแย่งลูกค้าของ IonQ แต่เหมือนกับว่า NVDA มาช่วยยืนยันว่าตลาดนี้มีอยู่จริง ช่วยเร่งให้ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว และปูทางให้เงินทุนก้อนใหญ่ไหลเข้ามาหาบริษัทไหนก็ตามที่สามารถให้บริการการประมวลผลควอนตัมได้ตามความต้องการ

นี่จึงถือเป็นทั้ง "ประโยชน์" และ "คำเตือน" ในเวลาเดียวกันสำหรับ IonQ เพราะถึงแม้ว่า IonQ จะมีความได้เปรียบจากการเริ่มต้นก่อนใคร แต่ความได้เปรียบนั้นจะมีความหมายก็ต่อเมื่อบริษัทสามารถสร้างรายได้ในเชิงพาณิชย์ได้จริง ก่อนที่ตลาดควอนตัมจะมีคู่แข่งเข้ามามากกว่านี้ ความได้เปรียบในการแข่งขันไม่ได้มาจากแค่เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมาจากรายได้ที่เกิดขึ้นจริง การรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ การบูรณาการเข้ากับระบบอื่นๆ และการทำให้ลูกค้ายังคงเลือกใช้บริการต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า NVDA จะยังคงร่วมมือกับพันธมิตรไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงจุดหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นแล้ว ถ้า IonQ พิสูจน์ได้ว่าระบบสามารถเชื่อมต่อเข้ากับสถาปัตยกรรมแบบ ABCI-Q ได้อย่างราบรื่น นั่นก็ถือเป็นชัยชนะ แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น NVDA ก็มีทั้งขนาดองค์กรที่ใหญ่กว่า เงินทุนที่หนากว่า และช่องทางจัดจำหน่ายที่พร้อมจะหันไปสนับสนุนรายอื่น หรือแม้กระทั่งลงมือพัฒนาระบบของตัวเองขึ้นมา และแน่นอนว่า NVDA จะไม่รอคอยต่อไปโดยที่ไม่ลงมือทำอะไรเลย