Nvidia ฝ่ามรสุมส่งออกชิป H20 ไปจีน!! ลุ้นเป้าหมาย $150 สิ้นปี!

หุ้น Nvidia หลังจากที่มีข่าวเรื่องดราม่าการส่งออกชิป H20 ไปจีน ทำให้นักลงทุนอาจจะใจคอไม่ดี แต่จริงๆแล้ว เรื่องดราม่าส่งออกชิปไปจีน ตลาดเริ่มมองข้ามแล้ว สังเกตไหมว่าตั้งแต่มีข่าวออกมาเมื่อกลางเดือนเมษายน ราคาหุ้น Nvidia ก็ยังบวกขึ้นมาได้ประมาณ +5% คือเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่

ถ้ายังจำกันได้ ตอนปี 2022-2023 ก็เคยมีเรื่องแบบนี้มาแล้ว ที่สหรัฐฯห้ามส่งออกชิปรุ่นท็อป A100/H100 ไปจีน ตอนนั้น Nvidia ก็แก้เกมด้วยการออกชิปรุ่น A800/H800 ที่ลดสเปกลงมาหน่อยเพื่อขายในจีนโดยเฉพาะ ซึ่งมันก็เวิร์ค!!

พอมาถึงรอบนี้กับชิป H20 ก็คล้ายๆเดิม พอมีกฎเกณฑ์ใหม่เรื่องการส่งออก Nvidia ก็เตรียมออก H20 รุ่นที่ปรับปรุงให้สอดคล้องกับกฎเพื่อตลาดจีนอีกแล้ว ซึ่งเป็นแพทเทิร์นที่เคยเห็นมาก่อน Nvidia ก็ต้องหาทางปรับตัวเพื่ออยู่รอด ดังนั้นเรื่องดราม่า H20 นี้จึงไม่ค่อยน่ากังวลสักเท่าไหร่

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ มีรายงานออกมาว่าลูกค้ารายใหญ่ในจีนอย่าง ByteDance, Alibaba, และ Tencent สั่งซื้อชิป H20 ไปเยอะมากในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดรวมๆกันประมาณ $16,000 ล้าน! ตัวเลขนี้ถือว่าเยอะมาก ถ้าเทียบกับที่นักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ว่ายอดขาย H20 ทั้งปี 2024 จะอยู่ที่ประมาณ $12,000 ล้าน แต่นี่แค่ไตรมาสเดียวก็แซงไปแล้ว! ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผลกระทบจากเรื่องค่าใช้จ่ายที่ Nvidia เคยประเมินไว้ $5,500 ล้าน จากประเด็นส่งออก H20 อาจจะไม่ได้หนักหนาสาหัสอย่างที่คิด

แต่ก็มีอีกเรื่องที่น่าจับตามองมากกว่า คือเรื่องอัตรากำไรขั้นต้น ที่ลดลงมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ตอนแรกหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเพราะการเตรียมเปิดตัวชิปซีรีส์ใหม่ Blackwell แต่ก็น่าสงสัยว่าปัจจัยหลักอาจจะมาจากการที่ Nvidia ต้องขายชิป H20 ให้จีนในราคาที่ค่อนข้างถูก อาจจะต่ำกว่าราคาของคู่แข่งอย่าง Huawei ด้วยซ้ำ เพื่อที่จะรักษาฐานลูกค้าและส่วนแบ่งการตลาดในจีนไว้ อันนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้อัตรากำไรลดลง

ปัจจัยลบต่างๆ ที่กดดันราคาหุ้น Nvidia ในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องภายนอกซะส่วนใหญ่ มากกว่าที่จะเป็นปัญหาจากตัวธุรกิจของ Nvidia เอง เช่น มาตรการกีดกันทางการค้าต่างๆ ดังนั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่าหุ้น Nvidia มีโอกาสที่จะฟื้นตัวกลับไปแถวๆ $150 ได้ภายในสิ้นปีนี้

ส่วนความเสี่ยงที่ต้องคอยจับตาคือ เรื่องที่อาจจะมีการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์เป็นกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งถ้าตัวเลขภาษีมันสูงเกินไป เช่น เกิน 25% อันนี้ก็อาจจะเริ่มน่ากังวล เพราะจะกระทบความสามารถในการทำกำไรของบริษัทได้ แต่เชื่อว่า Nvidia น่าจะมีความสามารถในการต่อรองราคาและผลักภาระบางส่วนไปให้ลูกค้าได้บ้าง สังเกตจากที่ลูกค้ารายใหญ่อย่าง Meta ก็เพิ่งจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI ไปอีก น่าจะเตรียมรับมือกับต้นทุนที่อาจจะสูงขึ้นไว้แล้ว

โดยรวมแล้ว สถานการณ์ของ Nvidia ไม่ได้น่าเป็นห่วงอย่างที่หลายคนกลัวกัน เรื่องดราม่าต่างๆ บริษัทก็แสดงให้เห็นแล้วว่าปรับตัวได้ ส่วนเรื่องอัตรากำไรที่ลดลงก็น่าจะมาจากกลยุทธ์การแข่งขันในตลาดจีนมากกว่า แต่ในแง่มูลค่าและโอกาสเติบโต ถือว่ายังน่าสนใจอยู่!!