ผลประกอบการ Adobe ไตรมาส 1/2025: ดีแค่ไหน? ทําไมหุ้นยังร่วง?

ผลประกอบการ Adobe ไตรมาส 1/2025: ดีแค่ไหน? ทำไมหุ้นยังร่วง?

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เรามาดูกันว่าทำไมหุ้น Adobe ถึงร่วงลงกว่า 4% ทั้งๆ ที่ประกาศผลประกอบการออกมาดีเกินคาด มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น

สรุปตัวเลขสำคัญไตรมาส 1/2025

ผลประกอบการสำคัญ:

  • รายได้รวม: 5.71 พันล้านดอลลาร์ (เติบโต 11% เทียบปีก่อน)

  • กำไรต่อหุ้น: 5.08 ดอลลาร์ (เติบโต 13% เทียบปีก่อน)

  • ทั้งสองตัวเลขอยู่เหนือที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

จุดเด่นที่น่าสนใจ

ธุรกิจหลักยังเติบโตดี

  • Digital Media มีรายได้ 4.23 พันล้านดอลลาร์ (เติบโต 12%)

  • Digital Experience มีรายได้ 1.41 พันล้านดอลลาร์ (เติบโต 10%)

  • รายได้ประจำปีของ Digital Media (ARR) อยู่ที่ 17.63 พันล้านดอลลาร์ (เติบโต 12.6%)

การลงทุนด้าน AI เริ่มเห็นผล

  • เปิดตัว Firefly Video Model ที่สร้างวิดีโอด้วย AI ที่ปลอดภัยในเชิงพาณิชย์

  • ผลิตภัณฑ์ AI แบบสแตนด์อโลนมีมูลค่าธุรกิจกว่า 125 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่าภายในสิ้นปี 2025

  • ผู้ใช้สร้างสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย Firefly แล้วกว่า 20 พันล้านรายการ

กลุ่มผู้บริโภคทั่วไปเติบโตแข็งแกร่ง

  • กลุ่ม Business Professionals and Consumers มีรายได้จากการสมัครสมาชิก 1.53 พันล้านดอลลาร์ (เติบโต 15%)

  • ผู้ใช้งาน Acrobat รายเดือนเพิ่มขึ้น 23%

  • การใช้งาน AI Assistant เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากไตรมาสก่อน

แล้วทำไมหุ้นยังร่วง?

1. แนวโน้มไตรมาส 2 ไม่น่าตื่นเต้น

Adobe คาดการณ์รายได้ไตรมาส 2 ที่ 5.77-5.82 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแทบไม่แตกต่างจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.8 พันล้านดอลลาร์ ไม่มีสัญญาณว่าการเติบโตจะเร่งตัวขึ้นครับ

2. รายได้จาก AI ยังเล็กมาก

แม้จะมีนวัตกรรม AI หลายอย่าง แต่รายได้จาก AI ยังมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้รวม (125 ล้านดอลลาร์ vs 5.71 พันล้านดอลลาร์) นักลงทุนกังวลว่า Adobe อาจทำเงินจาก AI ได้ไม่เต็มที่ครับ

3. ธุรกิจหลักชะลอตัว

กลุ่ม Creative and Marketing Professionals เติบโตเพียง 10% ช้ากว่ากลุ่มผู้บริโภคที่เติบโต 15% และบริษัทคาดการณ์การเติบโตทั้งปี 2025 ที่ 9% ซึ่งช้ากว่าปีก่อนที่เติบโต 10.7% ครับ

4. มูลค่าหุ้นค่อนข้างแพง

ตามการวิเคราะห์ของ InvestingPro พบว่า Adobe มีมูลค่าสูงเกินกว่า Fair Value มาก การประเมินมูลค่าที่สูงทำให้ไม่มีพื้นที่สำหรับความผิดพลาด แม้ผลประกอบการจะดี แต่ไม่ได้ "โดดเด่น" พอที่จะสนับสนุนราคาหุ้นในปัจจุบันครับ

เหตุผลที่นักลงทุนรีบเทขายหุ้น

1. ผิดหวังกับอนาคต: แม้ผลงานไตรมาส 1 จะดี แต่แนวโน้มไตรมาส 2 ไม่ได้เหนือความคาดหมาย นักลงทุนอยากเห็นการเติบโตที่เร่งตัวขึ้นแต่ไม่เกิดขึ้นครับ

2. รายได้จาก AI น้อยเกินไป: นักลงทุนเห็นว่า Adobe มีนวัตกรรม AI เยอะแต่ยังแปลงเป็นรายได้ได้น้อยมาก รายได้จาก AI ยังเป็นเพียงเศษเสี้ยวของธุรกิจทั้งหมดครับ

3. ธุรกิจดั้งเดิมชะลอตัว: การเติบโตของกลุ่มนักสร้างสรรค์มืออาชีพ (Creative Professionals) ที่ชะลอตัวลงอาจเป็นสัญญาณว่าธุรกิจหลักของ Adobe กำลังมีความท้าทายครับ

4. ประวัติการให้แนวโน้มระมัดระวัง: ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว หุ้นก็เคยร่วงหลังจากบริษัทให้แนวโน้มที่ระมัดระวังเกินไป ทำให้นักลงทุนกังวลซ้ำเดิมครับ

5. เทียบกับบริษัท AI อื่นยังช้า: อัตราการเติบโต 10-15% อาจไม่น่าประทับใจเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยี AI อื่นๆ ที่เติบโตเร็วกว่าครับ

6. กังวลเรื่องการแข่งขัน: เครื่องมือ AI สร้างสรรค์จากคู่แข่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อส่วนแบ่งตลาดของ Adobe ในอนาคตครับ

7. ผลงานหุ้นช่วงหลังไม่ดี: หุ้น Adobe ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดประมาณ 20-25% ในช่วงปีที่ผ่านมา สะท้อนความเชื่อมั่นที่อ่อนแอมาตั้งแต่ก่อนประกาศผลประกอบการครั้งนี้ครับ

สรุปภาพรวม

การที่หุ้น Adobe ร่วงหลังประกาศผลประกอบการไม่ได้มาจากผลงานไตรมาสนี้ที่แย่ แต่เป็นความกังวลเกี่ยวกับอนาคต โดยเฉพาะความสามารถในการสร้างรายได้จาก AI ในระยะยาว การชะลอตัวของธุรกิจหลัก ประกอบกับการประเมินมูลค่าหุ้นที่สูงอยู่แล้ว ทำให้นักลงทุนไม่อยากถือต่อครับ

เราจะติดตามความคืบหน้าของ Adobe ในการประชุมนักลงทุนที่จะจัดขึ้นสัปดาห์หน้าในงาน Adobe Summit ซึ่งบริษัทอาจให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการเติบโตในอนาคตครับ