Rocket Lab ก้าวข้ามจรวดเล็กด้วย Neutron!! สู่ 'โครงสร้างพื้นฐานอวกาศ' เต็มรูปแบบ!

Rocket Lab ช่วงนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนสายเทคโนโลยีอวกาศจับตา เพราะรายงาน Q1 ปี 2025 บริษัททำรายได้ $122.6 ล้าน โตขึ้น +32% จากปีก่อน แถมมี backlog งานรอส่งมอบอีก $1.07 พันล้าน ตัวเลขพวกนี้ฟังดูดีมาก แต่ตลาดยังไม่รีบดีใจ เพราะ Rocket Lab ยังขาดทุนจากการดำเนินงานและยังต้องใช้เงินสดจำนวนมากในการลงทุน R&D กับโครงสร้างพื้นฐาน

แต่ถ้าเจาะลึก Rocket Lab กำลังเปลี่ยนภาพตัวเองจากบริษัทที่เน้นรับจ้างปล่อยจรวดเล็กๆ ขึ้นสู่วงโคจรไปสู่การเป็น “แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานอวกาศ” แบบครบวงจร จุดแข็งคือ การผลิตชิ้นส่วนอวกาศเอง ขายทั้งชิ้นส่วน (เช่น วิทยุ Frontier, แผงโซลาร์ STARRAY) ผลิตดาวเทียมแบบ Flatellite ที่ประกอบเร็วมาก และรับจ้างสร้างคอนสเตลเลชั่นดาวเทียมให้ลูกค้าแบบครบวงจร

รายได้หลักตอนนี้กว่า 71% มาจาก Space Systems ที่เน้นขายเทคโนโลยีและบริการให้ภาครัฐและเอกชน ส่วนรายได้จากการปล่อยจรวด Electron แม้จะมีจำนวนเที่ยวบินสูง แต่ ASP (ราคาต่อเที่ยว) ลดลงเพราะมีดีลเหมาจ่ายหลายเที่ยวและการแข่งขันสูง แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือจรวด Neutron ที่กำลังจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน Neutron จะเป็นจรวดขนาดกลางที่ใช้ซ้ำได้และรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 13 ตัน ช่วยให้ Rocket Lab ขยายตลาดจากการปล่อยดาวเทียมเล็ก ไปสู่การรับงานปล่อยดาวเทียมขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงกว่าเดิมมาก โดย ASP ต่อเที่ยวสูงกว่า $55 ล้าน และเน้นลูกค้ารัฐบาล/กลาโหมที่ต้องการความปลอดภัยสูง

Rocket Lab ยังลงทุนซื้อกิจการ Mynaric (ผู้ผลิตเลเซอร์เทอร์มินัลสำหรับดาวเทียม) เพื่อเสริมพอร์ตเทคโนโลยีและฐานลูกค้าในยุโรป ซึ่งจะลดความเสี่ยงที่รายได้จะกระจุกตัวแค่ในอเมริกา

แม้จะมีจุดแข็งด้านเทคโนโลยีและ backlog ที่แน่น แต่ปัญหาคือบริษัทเผาเงินสดหนักมาก ไตรมาสล่าสุด free cash flow ติดลบถึง -$82.9 ล้าน ถึงแม้จะมีเงินสดในมือ $517 ล้านก็ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะแผนลงทุนยังอีกยาว และรายได้จะยังผันผวนตามลักษณะโปรเจกต์ใหญ่ๆ ของลูกค้ารัฐ

ราคาหุ้นตอนนี้ซื้อขายที่ EV/Sales สูงถึง 25 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม 10 เท่า) สะท้อนความคาดหวังว่าบริษัทจะโตแรงในอนาคต ถ้า Rocket Lab ทำรายได้ถึง $1.5 พันล้านในปี 2027 ได้จริง ก็ยังพอมี upside แต่ถ้ามีอะไรผิดแผน เช่น Neutron ล่าช้า หรือ ถ้าการควบรวมกิจการหรือการซื้อบริษัทใหม่อย่าง Mynaric ไม่เป็นไปตามแผน ราคาหุ้นก็อาจร่วงแรง

Rocket Lab คือ “หุ้นเติบโตสายโครงสร้างพื้นฐานอวกาศ” ที่มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีและการบุกตลาดกลาโหม แต่ Rocket Lab ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ให้ตลาดเห็นว่า กลยุทธ์ที่บริษัททำทุกอย่างเองตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จะสามารถเปลี่ยนจากแค่รายได้โตมาเป็นทำกำไรได้จริง Rocket Lab จึงเหมาะกับสายลงทุนระยะยาวที่รับความเสี่ยงได้สูงและเชื่อมั่นในกลุ่มธุรกิจอวกาศยุคใหม่เท่านั้น