กองทุน 'SCHD': เครื่องจักร 'ปันผล' ชั้นดีสําหรับอนาคต??

SCHD หรือ Schwab U.S. Dividend Equity ETF ช่วงนี้ผลตอบแทนอาจดูไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ แต่ถ้ามองยาวๆ SCHD ยังเป็นหนึ่งใน ETF สายปันผลที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากสะสมความมั่งคั่งระยะยาวแบบเน้นกระแสเงินสดเข้าพอร์ตเรื่อยๆ จุดเด่นของ SCHD คือการโตของเงินปันผลที่เฉลี่ยปีละเกือบ 11% ตลอด 10 ปีหลัง แถมยีลด์ปัจจุบันก็สูงถึง 3.9% ซึ่งสูงกว่า ETF ปันผลตัวอื่นๆ อย่าง VIG ที่ให้แค่ประมาณ 1.74% ด้วยซ้ำ

ปีนี้ SCHD ปรับพอร์ตครั้งใหญ่ โดยเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มพลังงานขึ้นมาเป็น 21.1% ของพอร์ต (มากที่สุดใน ETF นี้) และลดกลุ่มการเงินลง พอราคาน้ำมันขึ้นแรงจากเหตุการณ์ตะวันออกกลาง หุ้นพลังงานอย่าง Chevron กับ ConocoPhillips ที่เป็นตัวหลักในพอร์ต SCHD ก็ได้อานิสงส์เต็มๆ ซึ่งถ้าเทียบกับ VIG ที่มีหุ้นพลังงานแค่ 2.7% ทำให้ SCHD ได้เปรียบตรงนี้ชัดเจน

แม้ระยะสั้นผลตอบแทนอาจจะดูแผ่วๆ แต่ถ้าดูตั้งแต่ตั้งกองมา SCHD ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีถึง 12.2% สูงกว่า VIG ที่ได้แค่ 9.6% ที่สำคัญคือเงินปันผลโต 161% ใน 10 ปีหลัง เทียบกับ VIG ที่โต 112% เรียกว่าถ้าเน้นกระแสเงินสดและการเติบโตของปันผล SCHD ยังเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งมาก

ความเสี่ยงหลักของ SCHD คือการที่พอร์ตตอนนี้พึ่งพากลุ่มพลังงานมากขึ้น ถ้าราคาน้ำมันกลับทิศหรือเศรษฐกิจชะลอตัว หุ้นกลุ่มนี้อาจจะกดดันผลตอบแทนของกองได้ แต่ถ้าเศรษฐกิจยังเติบโตและเงินเฟ้อลดลง หุ้นกลุ่มนี้ก็พร้อมจะนำพอร์ตขึ้นต่ออีก

SCHD ยังเหมาะกับคนที่ต้องการพอร์ตหุ้นปันผลเติบโต กระจายความเสี่ยงดี และอยากได้ยีลด์สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด จุดเด่นของ SCHD คือเป็นเหมือนกับเครื่องจักรสร้างเงินปันผลที่ยิ่งถือไว้นาน ผลตอบแทนก็ยิ่งทบต้นโตขึ้นเรื่อยๆ

สมมติเรานำเงินปันผลที่ได้กลับไปลงทุนต่อในกองนี้อีก ทุกๆปีเงินปันผลที่ได้รับก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราได้ถือหน่วยลงทุนมากขึ้น และแต่ละหน่วยก็จ่ายปันผลเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของบริษัท เปรียบเหมือนลูกหิมะกลิ้งลงเขา ตอนแรกอาจจะดูเล็กๆ แต่พอเวลาผ่านไปลูกหิมะก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นก้อนโต นี่แหละคือพลังของการทบต้นจากเงินปันผลของ SCHD ที่พิสูจน์มาแล้วในระยะยาว ถ้าเพื่อนๆเข้าใจธรรมชาติของ ETF ปันผลและมีความอดทนรอผลตอบแทนระยะยาว กองทุน SCHD ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับสร้างความมั่งคั่งแบบยั่งยืนในพอร์ตลงทุน