SentinelOne (S): เบื้องหน้า 'งบสวยงาม' กับ 'ความจริง' ที่น่ากังวล??

ผมว่าผลประกอบการ Q2 ล่าสุดของหุ้น S เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ทำไมหุ้นตัวนี้ถึงดูเหมือนจะ "ราคาถูก" เมื่อเทียบกับหุ้นความปลอดภัยไซเบอร์ตัวอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังน่าสงสัยว่าบริษัทจะสามารถสร้างความได้เปรียบแบบยั่งยืนในระยะยาวได้จริงหรือไม่ หากมองแค่ตัวเลขผิวเผิน ถือว่าออกมาดูดีมาก รายได้โตขึ้น 22% เป็น $242 ล้าน ส่วนรายได้ประจำปี (ARR) ก็โต 24% จนทะลุหลัก $1 พันล้านเป็นครั้งแรก แถมอัตรากำไรขั้นต้นก็ยังสูงถึง 79% และที่สำคัญคืออัตรากำไรจากการดำเนินงานก็พลิกกลับมาเป็นบวกได้สำเร็จที่ 2% นอกจากนี้ บริการตัวเก่งอย่าง Purple AI ก็โตแบบก้าวกระโดดและถูกขายพ่วงไปกับไลเซนส์ใหม่ๆ มากกว่า 30% ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าสินค้าของบริษัทเป็นที่ต้องการของตลาดจริงๆ

แต่ความจริงที่สำคัญกว่านั้นจะปรากฏขึ้นมา เมื่อเราลองนำ S ไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งเบอร์หนึ่งอย่าง CRWD ทั้งสองบริษัทมีรายได้และ ARR เติบโตในระดับใกล้เคียงกันคือประมาณ 20% ต้นๆ แต่จุดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงคือ CRWD สามารถทำกำไรในรูปของกระแสเงินสดอิสระ ได้สูงถึง 24% ในขณะที่ S ยังคงติดลบอยู่ ความแตกต่างนี้สำคัญมาก หมายความว่าบริษัทสองแห่งที่เติบโตพอๆกัน กลับมีพื้นฐานทางการเงินที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว ในเมื่อนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในบริษัทที่ทั้ง "โตเร็วและกำไรเยอะ" อย่าง CRWD ได้ แล้วทำไมถึงต้องเลือกบริษัทที่ยังเผาเงินอยู่ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ราคาหุ้นของ S ไม่ไปไหนเสียที แม้แต่ตอนที่ CRWD ระบบล่มไปชั่วขณะ ลูกค้าก็ยังไม่ย้ายหนีไปไหน เพราะความแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มในระยะยาวนั้นสำคัญกว่า

สำหรับ S คำถามสำคัญที่สุดก็คือ เทคโนโลยี AI ที่บริษัทภาคภูมิใจจะสามารถสร้าง "คูเมืองทางธุรกิจ" ที่แข็งแกร่งได้จริงหรือไม่ หรือจะเป็นแค่ผู้นำด้านฟีเจอร์ที่คู่แข่งสามารถตามทันได้ในที่สุด ถึงแม้ผู้บริหารจะคาดการณ์ว่า ‘ทั้งปีนี้บริษัทจะเริ่มมีกำไรและมีกระแสเงินสดเป็นบวกได้’ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี แต่ระดับของกำไรนั้นยังห่างไกลจากคู่แข่งมากเกินไปที่จะเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนได้

ดังนั้น หุ้น S ที่ดูเหมือนจะราคาถูกเมื่อเทียบกับตัวอื่นในกลุ่ม ก็เป็นเพราะว่าตลาดยังไม่เห็น "คูเมือง" ที่ว่านั่นเอง และถ้ายังไม่มีหนทางที่ชัดเจนที่จะทำกำไรได้ทัดเทียมกับ CRWD หุ้นตัวนี้ก็อาจจะเป็นได้แค่หุ้นสำหรับ "เก็งกำไรระยะสั้น" มากกว่าที่จะเป็น "หุ้นเติบโตสำหรับลงทุนระยะยาว" ในยุคความปลอดภัย AI