- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- วิกฤต Tesla ในสมรภูมิจีน! ยอดขายทรุดหนัก BYD ไล่บี้!! "Model Y ราคาถูก" คือทางรอด??
วิกฤต Tesla ในสมรภูมิจีน! ยอดขายทรุดหนัก BYD ไล่บี้!! "Model Y ราคาถูก" คือทางรอด??
หลังจากที่ราคาหุ้น Tesla ดิ่งลงมาตั้งแต่ต้นปี แต่เมื่อเดือนที่แล้วก็พลิกฟื้นขึ้นมาได้กว่า 50% เลยทีเดียว สาเหตุหลักๆ มาจากการที่ Elon Musk ประกาศว่าจะกลับมาโฟกัสที่ Tesla มากขึ้น แทนที่จะยุ่งอยู่กับบทบาททางการเมือง
แต่วันนี้ราคาหุ้นกลับร่วงลงไปอีกครั้ง โดยลดลงไปเกือบ -5% ในช่วงเช้า ก่อนจะขยับขึ้นมาปิดตลาดอยู่ที่ -2.25% ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? ก็เพราะนักลงทุนเริ่มหันมาสนใจตัวเลขธุรกิจจริงๆ ของ Tesla ซึ่งไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่
ยอดขายไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงถึง -13% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิลดลงไปมากถึง -70% เหลือแค่ $409 ล้าน แม้ว่าสาวกของ Tesla จะบอกว่าเป็นเพราะการปรับปรุงรุ่น Model Y ซึ่งเป็นรถขายดีที่สุดของบริษัท แต่เมื่อดูตัวเลขในไตรมาสที่ 2 ที่เพิ่งเริ่มต้น โดยเฉพาะในจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของ Tesla ก็ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดขาย Model Y ในจีนลดลง -24% เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลงถึง -58% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม ขณะที่ยอดขายรวมของรถที่ผลิตในจีนทั้ง Model 3 และ Model Y ลดลง -6% เมื่อเทียบกับปีก่อน นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 แล้ว
น่าสนใจตรงที่ว่า ในขณะที่ยอดขายของ Tesla ลดลง แต่ยอดขายรถพลังงานใหม่โดยรวมในจีนกลับเพิ่มขึ้นถึง +33.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยคู่แข่งอย่าง BYD มียอดขายเพิ่มขึ้น +19.4% ซึ่งสะท้อนว่า Tesla กำลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งโดยเฉพาะในจีน
สถานการณ์นี้ทำให้นักลงทุนกังวลและอาจกำลังขายหุ้นล่วงหน้าก่อนที่ตัวเลขยอดขายอย่างเป็นทางการจากสมาคมรถยนต์โดยสารจีน (CPCA) จะออกมา เหตุการณ์นี้ยิ่งน่ากังวลเมื่อยอดขายในตลาดยุโรปก็ลดลงเช่นกัน ทำให้จีนยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น
การที่ Tesla ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในจีนเป็นความท้าทายระยะยาวที่น่าจับตา ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นเร็วเกินไปในช่วงที่ผ่านมาอาจจะต้องปรับฐานลงมาให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน นักลงทุนอาจต้องจับตากลยุทธ์การแข่งขันของ Tesla อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแผนการผลิต Model Y ราคาถูกลงในเซี่ยงไฮ้ที่จะเริ่มในปี 2026 ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาส่วนแบ่งตลาดในอนาคต