ถึงจุดวัดใจ Tesla: ธุรกิจหลักซบเซา!! Robotaxi กับ Optimus จะพลิกเกมได้ไหม?!

เมื่อวานนี้หุ้น Tesla ร่วงลงไปกว่า -3.38% ท่ามกลางตลาดที่ผันผวน ต้นเหตุมาจาก ข้อมูล GDP ไตรมาสแรกที่ติดลบ 0.3% ผิดคาดจากที่นักเศรษฐศาสตร์เคยทำนายว่าจะเติบโต 0.4% ข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ชะลอตัวลงเหลือแค่ 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเคยโตถึง 4% สิ่งเหล่านี้ส่งสัญญาณว่า “อเมริกาอาจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ”

จริงๆแล้ว ธุรกิจหลักของ Tesla ด้านรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุดหดตัวลง 20% ทำให้รายได้รวมลดลง 9% และกำไรสุทธิดิ่งลงถึง 71% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หุ้นลดลงไปแล้วกว่า 30% นับตั้งแต่ต้นปี 2025 แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้วจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ 12.5% ก็ตาม

แต่… ก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง เพราะ Tesla เตรียมเปิดตัวบริการ Robotaxi ที่ออสตินในเดือนมิถุนายนนี้ และกำลังพัฒนาหุ่นยนต์มนุษย์ Optimus ซึ่งอาจเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวรถรุ่นถูกลงอย่าง Model Q ที่คาดว่าจะมีราคาประมาณ $30,000 รวมถึงปรับโฉมรุ่นเดิมอย่าง Model Y, S และ X ด้วย

ถ้าดูตัวเลขปัจจุบัน Tesla ซื้อขายที่ระดับราคา $282.16 มูลค่าตลาดอยู่ที่ $9.08 แสนล้าน ค่า P/E สูงถึง 147 เท่า และ P/S ประมาณ 9 เท่าของรายได้คาดการณ์ปีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่ารายได้ปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ $107-117 แสนล้าน และกำไรต่อหุ้นที่ $2.62

สำหรับ Tesla ถือว่ายังคงเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงที่ราคาปัจจุบัน แม้จะมีนวัตกรรมที่น่าสนใจรออยู่ แต่การหดตัวลงของธุรกิจหลักส่งผลกระทบหนัก อีกทั้งแรงขับเคลื่อนใหม่อย่าง Robotaxi และหุ่นยนต์ Optimus ยังต้องใช้เวลาในการสร้างรายได้จริงในตลาด ขณะที่แรงกดดันจากคู่แข่งและตลาดรถยนต์โดยรวมยังคงมีอยู่ เมื่อพิจารณาจากพื้นฐานธุรกิจ, มูลค่าหุ้นที่สูงและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เพื่อนๆนักลงทุนควรรอจังหวะราคาที่เหมาะสมกว่านี้ก่อนเข้าลงทุน