"Very Nice Call" ช่วยตลาดหุ้นโลก! ประธาน EU ต่อรองสําเร็จ..ทรัมป์สยบศึกภาษี 'ชั่วคราว'!

ทรัมป์ประกาศข่าวดีที่ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยทรัมป์ตัดสินใจเลื่อนการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปออกไป เดิมทีจะเริ่มเก็บ 50% ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน แต่ตอนนี้เลื่อนไปวันที่ 9 กรกฎาคม

ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศนโยบาย "reciprocal tariffs" หรือภาษีตอบโต้ คิดจะเก็บภาษี 10-20% จากหลายประเทศ แต่ให้เวลาเจรจา 90 วัน ซึ่งจะหมดเขตวันที่ 9 กรกฎาคมพอดี แล้วช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บ่นว่าการเจรจากับ EU ไม่คืบหน้า เลยขู่จะขึ้นภาษีเป็น 50% ทันที

แต่แล้ว Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ก็โทรไปขอเวลาเพิ่ม ทรัมป์บอกว่าเป็น "very nice call" และยอมขยายเวลาให้ โดยฝั่ง EU บอกว่าพร้อมเจรจาอย่างจริงจัง และต้องการเวลาถึง 9 กรกฎาคมเพื่อทำดีลที่ดี

สาเหตุที่ทรัมป์โมโหก็เพราะสหรัฐมีการขาดดุลการค้ากับ EU มากถึง $235-236 พันล้านต่อปี และทรัมป์ยังบ่นว่า EU ใช้กฎเกณฑ์แปลกๆ เซ็ทกั้นสินค้าอเมริกัน อย่างเช่น ภาษี VAT 19%, การที่ EU ปรับเงินบริษัทเทคอเมริกันหลายหมื่นล้าน และกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้สินค้าอเมริกันขายยากในยุโรป

หลังข่าวนี้ออกมา ตลาดหุ้นยุโรปกระโดดขึ้นทันที โดย Euro Stoxx 600 ขึ้น +1.02%, DAX เยอรมันขึ้น +1.63% ส่วนตลาด futures สหรัฐก็ปรับขึ้นด้วย Dow Jones ขึ้น +1.01%, S&P 500 ขึ้น +1.15% แม้แต่ค่าเงินยูโรยังแข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์อีกด้วย

การขยายเวลานี้เป็นสัญญาณเชิงบวกในระยะสั้น แต่เพื่อนๆนักลงทุนควรระวังว่าทรัมป์มีประวัติการใช้ภาษีเป็นเครื่องมือต่อรอง ดังนั้นความผันผวนยังคงอยู่ ช่วง 2 เดือนข้างหน้าจะเป็นช่วงสำคัญที่ต้องติดตามการเจรจาการค้าอย่างใกล้ชิด หากไม่มีข้อตกลงภายใน 9 กรกฎาคม ก็อาจเห็นความเครียดในตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการค้าระหว่างสหรัฐ-ยุโรป