Visa ผลงาน Q2: รายได้พุ่ง ซื้อหุ้นคืน $3 หมื่นล้าน! ความท้าทายที่นักลงทุนต้องรู้!

ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 ของ Visa Inc. ออกมาแล้ว และต้องบอกว่ามีประเด็นน่าสนใจหลายอย่าง

ทำไมนักลงทุนควรสนใจหุ้น Visa หลังจากผลประกอบการล่าสุดนี้? 

เห็นได้ชัดว่า Visa มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มาอยู่ที่ $9.6 พันล้าน แถมยังมีการเติบโตของ EPS แบบ non-GAAP ที่ 10% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ นอกจากนี้บริษัทยังได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่ามหาศาลถึง $3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมากว่าผู้บริหารมีความมั่นใจในอนาคตของบริษัท

จุดแข็งที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ปริมาณการชำระเงินที่เพิ่มขึ้น 8% ทั่วโลก โดยในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6% ส่วนต่างประเทศเพิ่มขึ้น 9% ด้านธุรกรรมข้ามประเทศเติบโตถึง 13% และธุรกรรม Visa Direct พุ่งสูงถึง 28% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Visa ไม่ได้พึ่งพาเพียงแค่รายได้จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเท่านั้น

อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจคือ การเติบโตของการชำระเงินแบบ tap-to-pay ที่ตอนนี้มีอัตราการใช้งานทั่วโลกถึง 76% โดยในสหรัฐฯ เพิ่งจะทะลุ 60% เป็นครั้งแรก และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือเกือบ 50% ของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซทั่วโลกได้รับการป้องกันด้วยระบบโทเคน ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์

แต่ก็มีประเด็นที่น่ากังวลอยู่เหมือนกัน 

อย่างกำไรสุทธิแบบ GAAP ลดลง 2% มาอยู่ที่ $4.6 พันล้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายสำรองสำหรับคดีฟ้องร้องมูลค่า $992 ล้าน นอกจากนี้ยังมีสัญญาณของการชะลอตัวในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในภาคการท่องเที่ยว และความไม่แน่นอนจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รวมถึงความเสี่ยงจากภาษีนำเข้าที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ด้านสถานะการเงิน Visa ยังคงแข็งแกร่งมาก บริษัทมีการเติบโตของรายได้ในทุกกลุ่มบริการหลัก แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแบบ GAAP เพิ่มขึ้น 22% แต่ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายสำรองสำหรับคดีฟ้องร้องที่กล่าวไปข้างต้น แต่ถ้าดูค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแบบ non-GAAP จะเพิ่มขึ้นเพียง 7% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี

CEO คุณ Ryan McInerney บอกว่า:

"ผลงานของ Visa ดีมาก ทั้งยอดการชำระเงิน ธุรกรรมระหว่างประเทศ และจำนวนธุรกรรมเติบโตทั้งหมด ถึงเศรษฐกิจจะไม่แน่นอน แต่คนก็ยังใช้จ่ายอยู่ บริษัทมีกลยุทธ์ที่หลากหลาย ทั้งระบบจ่ายเงิน โซลูชันการโอนเงินทางธุรกิจ และบริการเสริมต่างๆ ธุรกิจของเรากระจายความเสี่ยงได้ดี พร้อมกับมุ่งเน้นนวัตกรรม ทำให้เรามั่นใจว่าจะเติบโตได้ดีต่อไป"

โดยรวมแล้ว Visa ยังคงเป็นหุ้นที่น่าลงทุนมาก ซึ่งเหตุผลหลักๆ คือ

• การเติบโตที่แข็งแกร่งและสม่ำเสมอทั้งรายได้และกำไร

• ตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งในด้านการชำระเงินดิจิทัลพร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง tap-to-pay และระบบโทเคน

• ผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นผ่านเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน โดยเฉพาะโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า $3 หมื่นล้านที่เพิ่งประกาศ

• ความมั่นใจของผู้บริหารในความยืดหยุ่นของธุรกิจแม้ในช่วงเศรษฐกิจที่ท้าทาย

แม้จะมีความเสี่ยงที่ต้องจับตาดู โดยเฉพาะเรื่องคดีฟ้องร้องที่ดำเนินอยู่ ความท้าทายด้านกฎระเบียบ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และผลกระทบจากภาษีนำเข้า แต่ด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องและโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้ Visa ยังคงมีศักยภาพที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต