ไตรมาส Viking: Q1/2025 น่าผิดหวัง?! รอลุ้นยาลดอ้วน "เฟส 3" พลิกเกม!!

บริษัท Viking Therapeutics เพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2025 ออกมา สรุปมาให้เพื่อนๆเข้าใจง่ายๆ ดังนี้:

  • ผลประกอบการ Q1 ปี 2025: ขาดทุน $0.41 ต่อหุ้น ซึ่งแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขาดทุนแค่ $0.34 ต่อหุ้น

  • สาเหตุที่ขาดทุนมากขึ้น: เป็นเพราะบริษัทมีค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) เพิ่มขึ้นอย่างมาก จาก $24.1 ล้านในปีที่แล้ว เป็น $41.4 ล้านในปีนี้ และค่าใช้จ่ายทั่วไปและบริหาร (G&A) ก็เพิ่มขึ้นจาก $10 ล้านเป็น $14.1 ล้าน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024

    • ค่าใช้จ่าย R&D เพิ่มขึ้น เนื่องจาก: ค่าผลิตยา, ค่าทดลองทางคลินิก และเงินเดือนพนักงาน

    • ค่าใช้จ่าย G&A เพิ่มขึ้น เนื่องจาก: ค่าบริการด้านกฎหมายและสิทธิบัตร, ค่าตอบแทนพนักงานในรูปหุ้น, และค่าประกัน

  • สถานะเงินสด: ณ. สิ้นเดือนมีนาคม 2025 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ประมาณ $852 ล้าน (ลดลงจากสิ้นปี 2024 ที่มีอยู่ $903 ล้าน) ซึ่งเงินก้อนนี้ถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับบริษัทไบโอเทคในช่วงทดลองยาแบบนี้ และเพียงพอให้บริษัทเดินหน้าวิจัยต่อได้อีกหลายปี

  • ความคืบหน้า: CEO ของบริษัทบอกว่า ในไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องจากปี 2024 และบริษัทกำลังเตรียมเริ่มทดลองยา VK2735 (แบบฉีดใต้ผิวหนัง) ในเฟส 3 ในไตรมาส 2 ปีนี้ นอกจากนี้ ยาตัวเดียวกันในรูปแบบเม็ด (VK2735 tablet) ก็เริ่มทดลองเฟส 2 และรับผู้เข้าร่วมการทดลองครบแล้ว บริษัทก็เตรียมโรงงานกับ CordenPharma ไว้สำหรับผลิตเชิงพาณิชย์แล้วด้วย

  • ราคาหุ้น: หลังประกาศผลประกอบการ ราคาหุ้น VKTX ลดลงเล็กน้อย ประมาณ -1.71% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ

โดยรวมแล้ว Viking Therapeutics ยังถือว่าเป็นบริษัทที่มีเงินสดแน่น และโครงการยาหลักเดินหน้าเร็ว นักวิเคราะห์ยังมองเป้าหมายราคาหุ้นเฉลี่ยไว้สูงถึง $93 (เป้าหมายสูงสุด $125 และต่ำสุดที่ $30) โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ $25.79

Viking Therapeutics เป็นหุ้นไบโอเทคที่มีเงินสดเหลือเฟือสำหรับการวิจัย และโครงการยาที่อยู่ในเทรนด์โรคอ้วนที่ตลาดใหญ่มาก ซึ่งปกติแล้วบริษัทไบโอเทคแบบนี้จะมีช่วงขาดทุนหนักในช่วงวิจัยและทดลองยา จุดที่ต้องจับตาคือผลทดลองเฟส 3 ของ VK2735 ถ้าออกมาดีและผ่าน FDA ได้ โอกาสสร้างรายได้จะเปิดกว้างมาก แต่ถ้าไม่ผ่านก็มีความเสี่ยงสูง เพราะรายได้หลักยังไม่เกิด เพื่อนๆ นักลงทุนที่สนใจหุ้นตัวนี้ ต้องยอมรับว่า ในระยะสั้นอาจมีความผันผวนและเสี่ยงสูง เพราะบริษัทยังขาดทุนต่อเนื่องและผลการทดลองยาก็ยังไม่แน่นอนเช่นกัน