เปิดศึก!! VRTX vs LLY แย่งชิง ตลาด 'ยาแก้ปวดแบบใหม่' $20,000 ล้าน!!

ตอนนี้ตลาดยาแก้ปวดแบบใหม่กำลังร้อนแรงอยู่ เคยไหมที่เจ็บปวดแล้วเราต้องกินยาแก้ปวดแบบ opioid ที่มีผลข้างเคียงเยอะมาก ทั้งติดยาและปัญหาระบบหายใจ ตอนนี้มีบริษัทยายักษ์ใหญ่ 2 เจ้า คือ Vertex กับ Eli Lilly ที่กำลังแก้ปัญหานี้อยู่

Vertex นำหน้าไปแล้วด้วยยาตัวใหม่ชื่อ “Journavx” ที่ FDA อนุมัติแล้วเมื่อต้นปีนี้ สิ่งพิเศษของยาตัวนี้คือ ยาจะไปจับ protein ที่ชื่อ NaV1.8 ซึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณความเจ็บปวดในระบบประสาท ผลการทดลองในคนไข้ 2,191 คนที่ผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ พบว่า Journavx แก้ปวดได้เท่ากับยา opioid แต่ผลข้างเคียงน้อยกว่าเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องคลื่นไส้ ที่สำคัญคือ ยาออกฤทธิ์เร็วกว่า opioid ถึง 2 เท่า

ส่วน Eli Lilly ก็ไม่ยอมแพ้ เพิ่งไปซื้อบริษัท SiteOne Therapeutics ในราคา $1 พันล้าน เพื่อได้ยาตัวใหม่ชื่อ “STC-004” ที่ทำงานคล้ายๆ กัน ข้อดีของ STC-004 คือกินวันละครั้งพอ ไม่เหมือน Journavx ที่ต้องกินทุก 12 ชั่วโมง แต่ยังอยู่ในระยะทดลองเบื้องต้น ข้อมูลยังไม่เยอะเท่าไหร่

เรื่องราคาของ Journavx อาจจะทำให้หลายคนต้องกลืนน้ำลาย เพราะค่ารักษาครั้งหนึ่งประมาณ $108 ในขณะที่ยา opioid แค่ $0.5 ต่อเม็ด แต่ดีที่ประกันสุขภาพในอเมริกาคุ้มครอง ทำให้คนไข้จ่ายแค่ $30 ต่อครั้ง โดยนักวิเคราะห์คาดว่า Journavx จะทำรายได้ $110 ล้านในปีนี้

ตลาดยาแก้ปวดแบบไม่ใช้ opioid มีมูลค่ากว่า $2 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นโอกาสใหญ่มากสำหรับทั้งสองบริษัท ตัวเลขทางการเงินของ Vertex แสดงให้เห็นว่า รายได้เติบโตจาก $7.5 พันล้าน ในปี 2021 เป็น $1.1 หมื่นล้านในปี 2024 ส่วน Eli Lilly ก็เก่งเรื่องยาลดน้ำหนัก มีรายได้ $4.5 หมื่นล้านในปี 2024

การพัฒนายาแก้ปวดที่ปลอดภัยกว่า opioid นี้จะเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ที่แท้จริง Vertex มีความได้เปรียบเพราะมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอนุมัติแล้ว ในขณะที่ Lilly ยังต้องรอผลการทดลอง แต่ทั้งคู่น่าลงทุนเพราะตลาดนี้มีศักยภาพสูงมาก และปัญหาผลข้างเคียงยา opioid ในอเมริกายังคงรุนแรง ทำให้ยาแบบใหม่นี้มีโอกาสเติบโตได้อย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า Lilly มีเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ $1,000+ ส่วน Vertex ก็มีศักยภาพไปถึง $550-600 ได้ภายในปีนี้