- ลงทุนหุ้นอเมริกา
- Posts
- "อย่าโยนภาษีให้ลูกค้า" ทรัมป์ ฉะ Walmart: 'กลืนภาษี' หรือ 'ผลักภาระ'? บทสรุปนี้ ใครเจ็บ??
"อย่าโยนภาษีให้ลูกค้า" ทรัมป์ ฉะ Walmart: 'กลืนภาษี' หรือ 'ผลักภาระ'? บทสรุปนี้ใครเจ็บ??
หลังจากที่ Walmart ออกมาเตือนว่า บริษัทอาจต้องขึ้นราคาสินค้าในเดือนนี้ เพราะต้นทุนสูงขึ้นจากมาตรการภาษีศุลกากรที่ทรัมป์เพิ่งประกาศ โดยเฉพาะภาษีนำเข้าจากจีนที่โดนไปสูงถึง 145% ทำให้ของหลายอย่างที่ Walmart ขายอยู่ต้องเจอต้นทุนเพิ่มแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยซีอีโอของ Walmart ก็ออกมาบอกตรงๆว่า “บริษัทพยายามตรึงราคาสินค้าให้ถูกที่สุดแล้ว แต่ด้วยกำไรต่อหน่วยของธุรกิจค้าปลีกมันน้อยมาก จะให้ Walmart แบกรับภาษีทั้งหมดนั้นเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องมีบางส่วนที่ต้องส่งต่อให้ผู้บริโภค" แต่ Walmart ก็ยืนยันว่าจะไม่ให้ภาษีไปกระทบราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหรืออาหาร เพราะรู้ว่าคนส่วนใหญ่เดือดร้อนจริงๆ ถ้าอาหารขึ้นราคา
พอข่าวนี้ออกมา คนก็เริ่มจับตาว่าราคาสินค้าจะขึ้นจริงไหม และจะกระทบต่อผู้บริโภคแค่ไหน ทรัมป์เลยออกมาพูดสวนทันทีว่า “อย่าโยนความผิดให้กับภาษีศุลกากร ที่รัฐบาลเป็นคนตั้ง ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น” ทรัมป์ยังบอกอีกว่า Walmart ควร “กลืนภาษีเอง” ซึ่งหมายความว่า Walmart ควรรับภาระต้นทุนภาษีศุลกากรเอง ไม่ใช่ผลักภาระไปให้ลูกค้า เพราะปีที่แล้ว Walmart กำไรเป็นพันล้านดอลลาร์ จะมาอ้างว่าต้องขึ้นราคาสินค้าเพราะภาษีมันดูไม่แฟร์กับผู้บริโภค แถมทรัมป์ยังเสริมอีกว่า Walmart กับจีนควรรับผิดชอบตรงนี้ร่วมกัน ไม่ใช่ให้ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่ม
ประเด็นนี้มันสะท้อนภาพใหญ่ของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ตอนนี้ทำให้บริษัทอเมริกันจำนวนมากต้องลดหรือถอนเป้าหมายผลประกอบการทั้งปี เพราะต้นทุนสูงขึ้น คนก็จับจ่ายน้อยลง เศรษฐกิจก็เริ่มชะลอตัว ด้าน Walmart เองแม้จะเก่งเรื่องบริหารต้นทุนและมีอำนาจต่อรองสูง แต่ก็ยังหนีไม่พ้นผลกระทบจากภาษีรอบนี้
ถ้ามองในมุมของนักลงทุน Walmart ยังถือว่าปรับตัวได้ดีมาก เพราะยอดขายยังโตต่อเนื่อง แถมออนไลน์ก็เริ่มมีกำไรแล้ว แม้ว่าหุ้นจะตกแรงหลังประกาศขึ้นราคา แต่ก็ดีดกลับขึ้นมา เพราะนักวิเคราะห์ยังเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งของ Walmart แต่ก็ต้องบอกว่าราคาหุ้นตอนนี้ซื้อขายที่ P/E สูงกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีถึง 24% ซึ่งแปลว่าตลาดให้มูลค่าที่สูง กับ Walmart เยอะมาก ถ้ามีอะไรผิดพลาดนิดเดียว หุ้นก็พร้อมจะปรับฐานแรง
ประเด็นนี้เป็นบททดสอบสำคัญของ Walmart และกลุ่มค้าปลีกของสหรัฐฯ ว่าใครจะบริหารต้นทุนและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีกว่ากัน ในระยะสั้น ราคาสินค้าบางอย่างต้องขึ้นแน่ๆ แต่ถ้า Walmart ยังรักษาความได้เปรียบด้านราคาและบริการไว้ได้ ก็ยังเป็นหุ้นที่น่าถืออยู่ในพอร์ตสำหรับคนที่รับความผันผวนได้ ส่วนใครที่หวังปันผลหรือความมั่นคง อาจต้องจับตาดูผลกระทบจากภาษีรอบนี้ให้ดี เพราะ อัตรากำไรที่ต่ำอยู่แล้วอาจถูกกดดันมากขึ้นอีกในอนาคต